แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หารายได้เสริม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หารายได้เสริม แสดงบทความทั้งหมด

วิธีหารายได้เสริม กับแนวทางการขายบทความทางอินเตอร์เน็ต (ภาค 2)

วิธีหาเงินจากการเขียนบทความขาย
จากบทความที่แล้วเรื่อง วิธีหารายได้เสริมจากการเขียนบทความขายบนบนอินเตอร์เน็ต ผู้อ่านคงได้รู้ถึงวิธีการเขียนบทความและการวางโครงสร้างรวมไปถึงแนวทางในการเขียนบทความแต่ละประเภทกันแล้วใช่ไหมครับ เนื้อหาภาคนี้ จึงเป็นภาคต่อว่าด้วยเรื่องช่องทางการเปลี่ยนงานเขียนของเราให้เป็นรายได้และผลักดันผลงานของเราให้เป็นธุรกิจทำเงินที่ยั่งยืนครับ

2 ขั้นตอนการหารายได้เสริมจากการเขียนบทความ

1. สร้างผลงานออกมาจากสิ่งที่ชอบและถนัด ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของนักขียนมือใหม่ทุกคน เพราะการเขียนบทความจากความชอบ ความหลงไหล ความถนัด จะเป็นงานที่ออกมาอย่างธรรมชาติและสมบูรณ์ที่สุดโดยถูกกลั่นกรองและตกผลึกจากประสบการณ์ของตัวผู้เขียนโดยตรง ขั้นตอนนี้ควรหมั่นฝึกเขียนทุกวันให้เกิดความชำนาญในการเขียนและการใช้ภาษา อย่างที่บอกไปครับ การเขียนบทความควรเขียนด้วยความรักและความถนัด โดยความถนัดของแต่ละบุคคลก็ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีความรู้ในเชิงลึกในเรื่องต่างๆ เช่น

- การลงทุนในหลักตลาดทรัพย์ 
- วิธีการค้าการขาย 
- การเกษตร 
- ยานยนต์/พาหนะ 
- การใช้ภาษาต่างประเทศ 
- วิชาการ ความรู้

เมื่องานเขียนที่ถูกสร้างออกมาอย่างสดใหม่ตามโครงสร้างอย่างถูกต้อง ก็ถึงวิธีการปล่อยของครับ

2. หาช่องทางในการสร้างรายได้จากการขายบทความ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่นายอาชีพเรียกว่าการปล่อยของครับ ถึงขั้นนี้นักเขียนอิสระอย่างเราๆเริ่มมีทักษะและความชำนาญทางด้านการเขียนพอสมควร คราวนี้ก็ได้เวลาหารายได้จากผลงานที่สร้างมากับมือเสียทีครับ

ช่องทางในการหารายได้จากการเขียนบทความ หลักๆที่เป็นที่นิยม มี 2 ช่องทาง มีดังนี้ครับ

- การรับจ้างเขียนบทความ - 
โดยหลังจากเราทำการโปรโมทหรือประกาศตัวเองตามเว็บไซต์ต่างๆให้โลกได้รับว่าเรารับจ้างเขียนบทความ จากนั้นไม่นานก็จะมีลูกค้าติดต่อเราครับ ลูกค้าโดยส่วนใหญ่จะมีอาชีพเป็นเว็บมาสเตอร์ที่ดูแลเว็บไซต์ต่างๆที่ไม่มีเวลาอัพเดตข้อมูลในเว็บไซต์ของตนเอง ลองคิดดูนะครับว่าในประเทศไทยและต่างประเทศมีเว็บไซต์อยู่เป็นล้านๆเว็บไซต์ อนาคตในการหารรายได้เสริมในวงการนี้ยังอีกยาวไกลครับ ซึ่งถ้าเราเขียนงานได้ดีและส่งงานเร็ว ลูกค้ามักชื่นชมและบอกกันปากต่อปาก เมื่อลูกค้าเหนียวแน่น การเขียนบทความก็กลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินครับ

ราคาในการซื้อขายบทความ
บทความภาษาไทย ก็อยู่ในเรท 400 - 500 คำ อยู่ที่ราคา 50-60 บาท โดยส่วนใหญ่ผู้เขียนมักจะรับงานเขียนบทความขั้นต่ำประมาณ 5 บทความต่อลูกค้าหนึ่งคน

บทความภาษาอังกฤษ ก็จะแพงหน่อยครับ อยู่ในเรท 400 - 500 คำ ราคาประมาณ 300 - 450 บาท นับว่าเป็นรายได้ที่ไม่เลวเลยทีเดียว

กฏเหล็กอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนควรตระหนักไว้ คืออย่ารับงานจนเกินตัว เพราะถ้าผู้เขียนส่งงานให้ลูกค้าไม่ทัน เราจะเสียลูกค้าและผลเสียจะตามมาอย่างร้ายแรง สำหรับผมมันคือ ความเสียหายทางด้านธุรกิจที่ประเมินค่ามิได้ครับ

- การรวมบทความทั้งหมดเป็นเล่มเดียวแล้วทำเป็น E-Book -
รายได้จากช่องทางนี้จะเป็นในลักษณะที่นักเขียนอิสระ เขียนผลงานออกมาเป็นหลายๆบทและนำมารวมเป็นเล่มเดียว ลักษณะบทความใน E-Book (หนังสืออิเล็กทรอนิกส์) ส่วนใหญ่จะเป็นบทความที่มีประโยน์เฉพาะทาง สาเหตุผู้ที่ลงทุนยอมซื้อ E-Book ของเราไป ผู้ซื้อมักจะสามารถนำความรู้จาก E-Book ไปใช้ประโยน์ได้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งครับ ส่วนขั้นตอนและวิธีการซื้อขายอีบุ๊ค ก็เป็นดังนี้ครับ ลูกค้าที่ต้องการจะซื้อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จะโอนเงินเข้าไปในบัญชีธนาคารของนักเขียนหรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือ Paypal  หลังจากนั้นผู้ซื้อจึงจะได้สิทธิ์ เข้าไปดาวน์โหลด E-Book เป็นของตนเอง ราคาในการซื้อขายอีบุ๊คนั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระว่ามีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนรวมไปถึงความยากง่ายในการเขียน ราคาอาจจะเริ่มต้น ตั้งแต่ หลักร้อยจนถึงหลักพันต่อการดาวน์โหลดเพียงครั้งเดียว  ในประเทศสหรัฐอเมริกานักเขียนส่วนใหญ่ นิยมขาย E-Book กันมาก เพราะการขายอีบุ๊ค สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นักเขียนออนไลน์หลายๆคนมีรายได้หลักแสนหรือหลักล้านบาทจากยอดการดาวน์โหลด E-Book ในแต่ละเดือนเลยทีเดียว ลองคิดดูครับ ในระหว่างที่นักเขียนออนไลน์เดินทางท่องเที่ยวหรือแม้แต่นอนหลับพักผ่อน ก็ยังมีผู้คนเข้าไปดาวน์โหลดอีบุ๊คของเราอยู่เรื่อยๆ ก็เท่ากับว่ามีเงินไหลเข้ามาอยู่ตลอดเวลา การขาย E-Book จึงถือเป็นธุรกิจทำเงินที่สามารถเรียกว่าเป็น Passive income เลยก็ว่าได้

ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงพอจะมองเห็นภาพรวม ในการหารายได้เสริมจากการเขียนบทความแล้วใช่ไหมครับ ว่าแนวทางและขั้นตอนในการเริ่มต้นการเป็นนักเขียนไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ขอแค่ให้เราฝึกฝนและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเกิดทักษะและความชำนาญ การหารายได้เสริมที่ทำเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป งานเขียนสามารถทำที่ไหนก็ได้ครับ จะทำที่บ้าน ท่องเที่ยวไปเขียนไปก็ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวโดนเจ้านายด่า ไม่ต้องทนรถติด  เพราะเราเป็นนายตัวเองครับ แล้วพบกันใหม่ครับ กับนายอาชีพ ใน Blog ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน  วันนี้เขียนมาซะยาวเลย ต้องขอตัวพักผ่อนก่อน ขอให้ร่ำรวยเงินทองกับธุรกิจที่ทำเงินนะครับ พี่น้องชาวไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง
"วิธีหารายได้เสริม จากการเขียนบทความขายบนอินเตอร์เน็ต (ภาค 1)"

ผู้เขียน: นายอาชีพ
photo by 401(K) 2012 on flickr

วิธีหารายได้เสริม จากการเขียนบทความขายบนอินเตอร์เน็ต (ภาค 1)

อาชีพอิสระ เขียนบทความขาย
สวัสดีครับเพื่อนๆ พบกันอีกครั้งกับนายอาชีพที่ Blog ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน วันนี้นายอาชีพจะมาแนะนำช่องทางทำเงินอีกหนึ่งช่องทาง เรื่องที่จะแนะนำในวันนี้คือ การเขียนบทความเพื่อนำมาขายหรือหารายได้ในอินเตอร์เน็ตกันครับ บทความนี้น่าจะถูกใจนักเขียนอิสระหรือนักเขียนออนไลน์ที่ชอบสร้างเนื้อหาหรือเรื่องสั้นเป็นงานอดิเรกแต่ยังไม่รู้วิธีการปล่อยของหรือวิธีการขายผลงานของตัวเอง

สำหรับมือใหม่หัดเขียนอาจจะมองเป็นเรื่องยากสักหน่อยกับการเริ่มต้นเขียนบทความ และแน่นอนว่าต้องมีคำถามผุดขึ้นมากมายในหัวสมอง เช่น เขียนเรื่องอะไรดี? เขียนไปจะมีใครอ่านไหม? รายได้มาจากไหน? เขียนเสร็จแล้วจะขายได้ที่ไหน? อยากเขียนแต่ไม่มีเวลาทำไงดี? การคิดในเชิงลบแบบนี้จะส่งผลให้งานของเราไม่เกิดขึ้นสักทีนะครับ ดังนั้นถ้ามีใจรักในการเขียน ควรเริ่มต้นและลงมือทำในทันที เปรียบเหมือนกับการเริ่มหัดปั่นจักรยาน ในครั้งแรกอาจจะมีสะดุด แต่พอเป็นแล้วก็ลื่นไหลไม่มีวันลืม บทความในวันนี้นายอาชีพจึงแนะนำประเด็นหลักๆ ถึงวิธีการเขียนบทความ และวิธีหารายได้จากขายบทความของเราครับ

ก่อนอื่นนักเขียนออนไลน์มือใหม่ต้องรู้ก่อนนะครับว่า โครงสร้างในการเขียนบทความเป็นอย่างไร และบทความถูกแบ่งออกเป็นกี่ประเภทและประเภทไหนเป็นแนวทางที่เหมาะกับตัวเรา

วิธีการวางโครงสร้างในการเขียนบทความ 
เหตุผลที่ต้องวางโครงสร้างก็เพื่อเป็นกรอบและแนวทางจะได้ไม่หลงทาง นักเขียนทุกคนจงจำให้ดี
1. ชื่อเรื่อง
2. เกริ่นนำ หรือ คำนำ
3. เนื้อเรื่อง
4. สรุปส่งท้ายบทความ

บทความแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท
นักเขียนมือใหม่ต้องรู้และหาแนวทางตามความชอบและความถนัดของตนเองว่าจะเขียนแนวไหน
1. บทความประเภทแนะนำ หรือ ประเภท How to  เช่น บทความที่สอนถึงวิธีการหารายได้เสริม วิธีการปลูกพืชไร้ดิน วิธีลงทุนในหุ้น วิธีการพูดภาษาอังกฤษ อื่นๆ
2. บทความที่แสดงออกทางด้านความคิดเห็น เช่น บทความการรีวิวการใช้สินค้าต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ Tablet กล้องถ่ายรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ มอเตอร์ไซต์  อื่นๆ
3. บทความเชิงวิชาการที่ให้ความรู้ เช่น บทความทางด้านการศึกษา บทความทางการแพทย์ บทความทางด้านกฏหมาย อื่นๆ
4. บทความแนววิเคราะห์ เช่น บทความการวิเคราะห์การเงิน/หุ้น วิเคราะห์การเศรษรฐกิจ วิเคราะห์สังคม วิเคราะห์การเมือง อื่นๆ

อ่านถึงตรงนี้ เพื่อนๆคงได้รู้แล้วนะครับว่า โครงสร้างของบทความเป็นอย่างไร เริ่มต้นและจบลงแบบไหน และได้รู้ว่าบทความมีกี่ประเภท สิ่งที่นายอาชีพ อยากจะให้เพื่อนๆทำตอนนี้ก็คือ ให้เพื่อนๆเลือกว่าตนเองเหมาะกับการเขียนบทความรูปแบบใด เพราะความถนัดและประสบการณ์ของแต่ละบุคคลย่อมไม่เหมือนกัน การสร้างรายได้จากการเขียนบทความจึงต้องเริ่มต้นจากความถนัดและใจรักก่อนครับ

อ่านต่อ
"วิธีหารายได้เสริม กับแนวทางการขายบทความ บนอินเตอร์เน็ต (ภาค 2)

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by Charles J Danoff on flickr

4 อาชีพเสริมทำเงิน ที่ยังคงมาแรงถึงยุคนี้

อาชีพที่ทำเงินในยุคนี้
พบกับนายอาชีพอีกเช่นเคยกับ blog ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน วันนี้นายอาชีพจะมาวิเคราะห์อาชีพที่ยอดฮิตและยอดนิยมของคนไทยในยุคนี้ กันครับ พูดถึงโลกของเราทุกวันนี้มันแคบลงนะครับ คงเป็นเพราะระบบการติดต่อสื่อสารทุกวันนี้สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส อีกทั้งประชาคมโลกได้มีการรวมตัวเป็นกลุ่ม เพื่อจุดประสงค์ หลายๆด้าน เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง อาชีพใหม่ๆจึงเกิดขึ้นอย่างมากมายช่องทางทำเงินจึงมีมากตามมาด้วยในยุคนี้

4 อาชีพเสริมทำเงิน ยอดฮิตและมาแรงที่ยังคงติดลมบนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

1. สอนพิเศษ ติวเตอร์ ทางด้านภาษา (Tutor)
อาชีพสอนพิเศษ หรือ ติวเตอร์ จริงๆแล้วเป็นอาชีพเสริมยอดนิยมมานานแล้ว แต่ในช่วงปีสองปีนี้ อาชีพนี้จะมาแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากการตื่นตัวและต้องเตรียมพร้อมการเข้าสู่ AEC หรือประชาคมเศษรฐกิจอาเซียน ที่กำลังจะเข้ามาในปี 2558 หลายๆคนเริ่มเล็งเห็นความสำคัญทางด้านการสื่อสารทางด้านภาษาอังกฤษ เด็กเล็ก เด็กโต รวมถึงผู้ใหญ่จึงหาที่เรียนกันยกใหญ่ ช่วงนี้จึงถือเป็นยุคทองของอาชีพติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษ ถ้าสังเกตุดีๆสถาบันสอนภาษาได้เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด อาชีพสอนพิเศษจึงยังคงถือว่าเป็นอาชีพที่มาแรงเหมือนเดิม

2. ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) หรือแปลเป็นไทยแบบตรงๆก็คือ "การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" ในยุคที่อินเตอร์เนตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและได้กลายมาเป็นส่วนหนึงของชีวิตเรา อินเตอร์เนตได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของสังคมเมืองเป็นอย่างมาก การซื้อขายสินค้าทางอินเตอร์เนตมีมากขึ้น ผู้ประกอบกาทั้งรายใหญ่และรายย่อยเริ่มหันมาปรับตัวโดยหันมาทำการตลาดแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านค้า การโฆษณาและกระจายสินค้า สินค้าที่ยอดฮิตและเป็นที่นิยมที่ซื้อขายบนโลกอินเตอร์เนต เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ มือถือ และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เกิดผลดีกับผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อก็มีตัวเลือกมากขึ้น เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถหาข้อมูลสินค้าเพื่อเลือกซื้อและเปรียบเทียบราคาได้อย่างรวดเร็ว เป็นการประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนต่างๆได้ดีทีเดียวสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้น ผู้ที่ทำอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงเป็นอาชีพที่มาแรงและจะยังคงแรงอีกต่อไปตราบใดที่มนุษย์ยังใช้ internet


3. ฟรีแลนซ์ (Freelance) ฟรีแลนซ์เป็นอาชีพอิสระที่หลายๆคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องอยู่ในกรอบและกฏของใคร อาชีพฟรีแลนซ์เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ หลายๆคนลาออกจากงานประจำเพื่อมาประกอบอาชีพฟรีแลนซ์เพราะรายได้ดีและทำเงินเป็นอย่างมาก แต่การจะทำอาชีพอิสระแบบนี้ได้ หาใช่ทำได้ง่ายๆนะครับ เพราะคนที่จะเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพ ต้องเป็นคนที่มีฝีมือและความชำนาญในด้านนั้นๆพอสมควร เพราะถ้าไม่เจ๋งพอก็คงอยู่ไม่ได้ อาชีพที่เป็นที่นิยมของชาวฟรีแลนซ์ ก็มีหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างดังนี้ครับ เช่น นักเขียน ช่างภาพ นักออกแบบ คนทำเว็บไซต์ นักการตลาดออนไลน์  และอีกมากมาย คนทำงานประจำหลายๆคนรับงานฟรีแลนซ์เป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน ถ้าแบ่งเวลาเป็นก็เท่ากับว่าคนเหล่านั้นมีรายได้ถึงสองทาง ดังนั้นฟรีแลนซ์จึงเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินและมาแรงอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2014

4. นักลงทุน (Investor) ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจกับการลงทุนเป็นอย่างมาก คนทำงานประจำหลากหลายอาชีพหันมาเป็นนักลงทุนกันมากขึ้น นักลงทุนในที่นี้คือกลุ่มคนที่นำเงินเก็บหรือเงินออมของตนเองมาลงทุนในด้านต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ทองคำ พัธบัตรรัฐบาล อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยการเลือกลงทุนของแต่ละบุคคลก็จะแตกต่างกันไป เป้าหมายของนักลงทุนก็คือกำไรจากการลงทุน โดยส่วนต่างที่งอกเงยจากการลงทุนด้านนั้นๆคือกำไรนั่นเอง หลายๆคนประสบความสำเร็จจากการลงทุน แต่ก็มีหลายคนขาดทุนเช่นกัน ดังนั้นการจะเป็นนักลงทุนที่ดีและประสบความสำเร็จได้นั้น นักลงทุนควรจะต้องมีความรู้ในด้านนั้นๆพอสมควร มีนักลงทุนหน้าใหม่เกิดขึ้นในทุกวัน ทั้งที่เป็นนักลงทุนชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติ จำนวนนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นตัวชี้วัดว่า อาชีพนักลงทุนยังคงแรงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ช่องทางทำเงิน นั้นมีอยู่มากมาย อยู่ที่ว่าใครเห็นโอกาสและลงมือทำ การสะสมความรู้ความชำนาญจนเกิดทักษะถือว่าเป็นการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน แม้โลกจะเปลี่ยนและหมุนเร็วแค่ไหน คนเหล่านี้เมื่อไปอยู่ที่ใด ย่อมไม่มีคำว่าอดตายอย่างแน่นอน

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by Robin Tobin on flickr


3 เหตุผลหลัก ที่ต้องหาอาชีพเสริม ก่อนที่จะสายเกินไป

อาชีพเสริม
สวัสดีครับเพื่อนๆ พบกับนายอาชีพ อีกเช่นเคยใน blog อาชีพเสริมทำเงิน วันนี้นายอาชีพ จะมาพูดถึงเหตุผลที่เราต้องหาอาชีพเสริม ก่อนที่จะสายเกินไป และทำไมต้องพูดถึงเรื่องนี้

เหตุผลง่ายๆครับ เพราะค่าครองชีพทุกวันนี้สูงเหลือเกิน อีกทั้งการแข่งขันเรื่องปากเรื่องท้องก็สูงไม่แพ้กันด้วย ที่สำคัญ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า AEC ที่จะเข้าในปี 2558 นี้ทำให้กลุ่มอาเซียน มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมืออย่างเสรี สิ่งนี้แหละที่ทำให้เราต้องรีบปรับตัวในทุกๆด้าน หลายๆคนตื่นตัวกับเรื่องนี้ และก็ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังนิ่งนอนใจเพราะคิดว่าคงไม่มีผลกระทบอะไรมากนักกับชีวิต..

3 เหตุผล ที่ต้องรีบหาอาชีพเสริมมาเพิ่มรายได้

1. เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางด้านการเงิน ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม เรื่องนี้มีผบกระทบเป็นอย่างมากต่อระบบการวางแผนทางการเงิน หลายๆคนเริ่มเป็นหนี้สิน เมื่อรายจ่ายนั้นมีมากกว่ารายได้ บางคนโชคดีหน่อยเป็นหนี้ในระบบ แต่ถ้าเป็นหนี้นอกระบบเมื่อไหร่ ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น ข้อนี้จึงถือเป็นเหตุผลหลักที่ต้องหาอาชีพเสริมเพื่อมาเพิ่มรายได้และมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอนั่นเอง

2. เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ ไม่ว่าอาชีพเสริมทางด้านไหนที่ท่านเลือก เมื่อท่านทำไปแล้ว รับรองว่าจะเกิดทักษะและความชำนาญในด้านนั้น ท่านสามารถนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจได้ ยกตัวอย่าง การไปเรียนทำเบเกอรี่ หลังจากที่ท่านเรียนไปแล้ว ท่านสามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสูตรต่างๆให้กับเบเกอรี่ของท่านมีมูลค่าที่สูงขึ้นไปอีก หลักจากนั้นก็ทำการตลาด อาจจะเปิดร้าน หรือกระจายสินค้าไปในจุดต่างๆ หรือถ้าท่านชอบงานเสริมเกี่ยวกับช่าง เมื่อท่านไปเรียนวิชาช่างตามศูนย์ฝึกอาชีพระยะสั้น และเมื่อท่านเรียนจบ นอกจากท่านจะได้ความรู้ความชำนาญ ท่านสามารถนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพ อาจจะเปิดร้านเล็กๆ หรือถ้าเกิดความชำนาญและมีฝีมือ ก็สามารถโกอินเตอร์ได้เลย เพราะ AEC เปิดโอกาสให้เคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออยู่แล้ว

3. เพื่อรองรับความไม่แน่นอน ข้อนี้เป็นที่รู้กันดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน งานประจำที่ทำอยู่รายได้ดีก็จริง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพรุ่งนี้ เราหมดสัญญาจ้าง โดนปลดออก หรือบริษัทที่ทำมีปัญหา สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ถ้าเรามีอาชีพเสริมที่สามารถทำเงินให้เราได้ ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินก็คงทะเลาไปได้บ้าง

เรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่เห็นมาจริง
เมื่อครั้งยังวัยรุ่น นายอาชีพ มีเพื่อนบ้านคนนึง มีอาชีพเป็น Sale ขายยาตามโรงพยาบาลและร้านขายยา ตอนนั้นเงินเดือนและค่าคอมมิสชั่นของชายผู้นี้ รายได้รวมแล้วก็ตกประมาณ 3 - 4 หมื่นบาท เค้ามีภรรยาและลูกสาว1คน พูดไปแล้ว เงินจำนวนนี้ ก็อยู่ได้อย่างสบายๆกับครอบครัวเล็กๆที่แสนอบอุ่น

เรื่องนี้เหมือนจะจบแบบสวยงาม..

วันเวลาผ่านไป...ชายผู้นี้ก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาทางบริษัทก็หาทางบีบพนักงานทีมีอายุมากออก โดยอ้างว่าผลประกอบการของบริษัทติดลบและอาจจะต้องปิดตัวลง จึงต้องปลดพนักงานออกเพราะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เงินที่เก็บออมเอาไว้ก็ค่อยๆหมดไปเพราะต้องมีรายจ่ายอยู่ทุกๆวัน จะหาอาชีพเสริมทำ ก็ไม่มีความรู้เพราะไม่เคยคิดจะทำมาก่อน บ้านยังผ่อนไม่หมด รถยังผ่อนไม่หมด อายุก็มากแล้ว ทุกอย่างพังลงมาเหมือนปราสาททราย ทุกวันนี้ เพื่อนบ้านผู้นี้มีอาชีพเป็นยามรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แกยังคงสู้ชีวิต ถึงแม้อายุจะมาก แต่ก็ต้องดิ้นรนต่อไป..เพื่อครอบครัว

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by K. Kendall on flickr

"วิธีหารายได้เสริม จากการขายภาพถ่ายบนโลกออนไลน์"

สร้างรายได้จากการถ่ายภาพ
ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน และผมนายอาชีพ วันนี้จะมาบอกเล่าถึงวิธีการหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเพื่อนๆกันนะครับ สำหรับช่องทางทำเงินในวันนี้ นายอาชีพก็จะมาพูดถึงวิธีการหารายได้จากอินเตอร์เน็ต โดยวิธีนี้จะเป็นการหาเงินจากการขายภาพถ่ายออนไลน์ หรือการขายภาพถ่ายที่เราถ่ายเก็บไว้แล้วนำไปขายบนโลกอินเตอร์เน็ตนั่นเอง

งานนี้เหมาะกับเพื่อนๆที่ชอบถ่ายภาพนะครับ ใครที่ไม่ชอบถ่ายภาพก็สามารถอ่านบทความนี้ได้เช่นกันครับ ถือซะว่าเป็นแนวคิดหรือเป็นทางเลือกอีกหนึ่งช่องทางในการหาเงินผ่านอินเตอร์เน็ตก็แล้วกัน มาดูกันครับว่าวิธีการขายรูปภาพออนไลน์ ขายแล้วได้เงินจริงไหม มีรายได้มาจากไหน และถ้าอยากหารายได้เสริมแบบนี้ต้องทำอย่างไร ไปพบกับคำตอบพร้อมกันเลยครับ

ก่อนอื่นผมจะขออนุญาตอธิบายแบบให้เห็นภาพกว้างๆและเข้าใจง่ายที่สุดนะครับ เพื่อที่มือใหม่ที่สนใจช่องทางการทำเงินโดยวิธีนี้จะได้มองเห็นภาพได้ครับ ส่วนใครพอรู้วิธีการหาเงินโดยการขายภาพอยู่แล้ว ก็อ่านผ่านๆก็ได้ครับ

ขั้นตอนในการขายภาพบนโลกออนไลน์

1. มีรูปภาพที่เป็นของตัวเอง ย้ำว่าเป็นรูปที่คุณถ่ายเอง คุณอาจจะถ่ายภาพอะไรก็ได้ครับ เช่น วิวทิวทัศน์ รูปคน สัตว์ สิ่งของ ถ่ายออกมาให้ชัดเจน ที่สำคัญองค์ประกอบของภาพต้องไม่ขาดและไม่เกิน

2. เข้าไปสมัครสมาชิกเว็บไซต์ประเภท Microstock (ไมโครสต๊อก) เว็บไซต์ประเภทไมโครสต๊อก คือเว็บไซต์ที่ให้บริการและเป็นตัวกลางในรับซื้อขายภาพโดยผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตครับ เหมือนกับร้านขายของ เรานำของไปฝากขาย และก็มีผู้ซื้อมารับซื้อจากร้าน เพียงแต่สินค้าชนิดนี้ก็คือภาพถ่ายนั่นเอง

เว็บไซต์ประเภทไมโครสต๊อกที่เราสามารถไปสมัครได้ก็มีดังนี้ครับ
  • www.dreamtime.com 
  • www.istockphoto.com
  • www.shutterstock.com 
  • และเว็บไซต์ไมโครสต๊อก อื่นๆ
ให้เลือกเองได้ตามใจชอบครับ แต่ส่วนตัวผมขอแนะนำให้สมัครไปที่เว็บ www.dreamtime.com เพราะเห็นหลายๆคนลงความเห็นว่า การส่งรูปไปทดสอบที่ Dreamtime น่าจะผ่านง่ายที่สุดแล้วครับ

3. หลังจากที่เราลงทะเบียนเปิดบัญชีขายภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องอัพโหลดภาพถ่ายของเราเข้าไปทดสอบคุณสมบัติภาพ โดยภาพที่ใช้อัพโหลดควรเป็นไฟล์ .JPG ที่มีความละเอียดสูงครับ หลังจากนั้นก็รอผลการตรวจสอบครับ เพราะทางไมโครสต๊อกจะต้องตรวจดูก่อนว่าภาพของเราผ่านมาตรฐานเค้าหรือเปล่า

4. สมมุติว่าภาพของเราผ่านการตรวจสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือให้เราเข้าไปใส่รายละเอียดภาพครับ เหตุผลที่ต้องใส่รายละเอียดภาพก็เพื่อที่ผู้สนใจที่ต้องการซื้อภาพถ่ายของเรา สามารถค้นหารายละเอียดของภาพของเรา และทำการตัดสินใจซื้อครับ

5. รอรับรายได้ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่หลายๆคนรอคอยครับ เราสามารถเข้าไปเช็ครายได้ของเราได้ตลอดครับ ว่าวันนี้มีคนเข้ามาซื้อภาพมากน้อยแค่ไหน ลืมบอกไปครับ ว่าภาพหนึ่งภาพเราสามารถขายได้หลายครั้งครับและหลายคนครับ ฉะนั้นแล้วถ้าเรายิ่งอัพโหลดภาพเข้าไปมากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะขายภาพก็ยิ่งมีมากขึ้นครับ และรายได้ก็จะตามมาครับ

เพื่อนๆอาจสงสัยใช่ไหมครับ ว่าคนจะซื้อภาพเราไปทำไม แล้วใครคือคนที่จะเข้ามาซื้อ เหตุผลง่ายๆครับ คนซื้อส่วนใหญ่นำภาพที่ซื้อไปทำงานด้านต่างๆครับ เช่น ทำภาพประกอบเว็บไซต์ ทำงานด้านกราฟฟิก ทำงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ แผ่นพับ ใบปลิว โปสเตอร์ต่างๆ เพื่อนๆอาจจะสงสัย อ้าว! จะเข้ามาซื้อทำไมให้เสียเงิน ทำไมไม่ก็อบปี้รูปภาพจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีให้เลือกตั้งเยอะแยะ สาเหตุที่ผู้ซื้อมาซื้อภาพจากเรา ก็เพราะจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ภาพครับ อย่าลืมนะครับว่าภาพทุกภาพมีเจ้าของ ภาพที่ไปก็อบจากเน็ตแล้วนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาต เคยมีกรณีโดนฟ้องเป็นหมื่นเป็นแสนมาแล้วครับ ฉะนั้นเสียเงินซื้อภาพไม่กี่ตังค์ หมดห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ ทำงานแบบสบายใจครับ หรือเพื่อนๆอาจจะมีคำถามว่า แล้วทำไมเค้าไม่ถ่ายภาพเองมาซื้อเราทำไม ถามว่าถ้าชาวต่างชาติอยากได้ภาพถ่ายที่เป็นสถานที่ เช่น วัดไทยไปประกอบงาน เค้าต้องบินมาเมืองไทยเพื่อมาถ่ายภาพภาพเดียวเลยหรอครับ ซึ่งมองดูแล้วคงไม่คุ้มแน่ๆ เลือกซื้อภาพในไมโครสต๊อกคงจะดีกว่าเพราะมีภาพสวยๆให้เลือกมากมาย

เป็นยังไงบ้างครับ เพื่อนๆพอจะเห็นภาพกว้างในการเข้ามาหารายได้เสริมโดยวิธีนี้หรือยังครับ รายละเอียดเชิงลึก และวิธีในการสมัคร ถ้าเพื่อนๆสงสัยก็สามารถโพสสอบถามนายอาชีพได้ครับ โดยเข้ามาที่ช่องทาง www.facebook/archeepfree  นายอาชีพยินดีตอบข้อสงสัยครับ และสำหรับเพื่อนๆที่มีความสนใจ และมองว่าการขายภาพถ่ายออนไลน์เป็นช่องทางทำเงินที่สามารถยึดเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระได้ งานนี้ไม่ต้องห่วงครับว่าเราเดินบนเส้นทางนี้คนเดียว เพราะมีคนไทยหลายคนครับที่ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม ว่างๆเพื่อนๆลองเข้าไปที่เว็บไซต์ www.stockphotothailand.com /forums/ แล้วจะเห็นชุมชนคนไทยเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเทคนิคการถ่ายภาพและโชว์รายได้จากการขายภาพ  มีคนไทยบางคนครับ มีรายได้หลักล้าน จากการขายภาพถ่ายออนไลน์ ไม่แน่นำครับ อาชีพเสริมตัวนี้อาจจะเป็นอาชีพที่ทำเงินให้คุณแบบไม่คาดคิดเลยทีเดียว

ผู้เขียน: นายอาชีพ
บทความที่เกี่ยวข้อง > ช่องทางทำเงิน หารายได้เสริมบนโลกอินเตอร์เน็ต

วิธีการหารายได้เสริม แบบพอเพียงและเรียบง่ายสไตล์น้าชาติ

อาชีพรับจ้างทั่วไป
       เมื่อวันก่อนนายอาชีพได้มีโอกาส เดินทางไปท่องเที่ยวสวนผลไม้ของเพื่อนที่ต่างจังหวัด และได้มีโอกาสสัมภาษณ์พ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาซื้อผลไม้ที่สวนแห่งนี้ หัวข้อในบทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการทำอาชีพเสริมและวิธีการหารายได้ของคนแถบนั้น จากการที่ได้พูดคุยกับน้าชาติซึ่งแกมีอาชีพเสริมเป็นพ่อค้ารายย่อย โดยน้าชาติจะมาเล่าถึงวิธีการหารายได้เสริมแบบพอเพียงและเรียบง่ายให้เราฟัง ทุกๆเช้าน้าชาติจะเข้ามาเก็บสินค้าเกษตรไปนั่งขายที่ตลาดช่วงเย็น

อาชีพหลักของครอบครัวน้าชาติจริงๆแล้วคือการทำห่อหมกขาย ซึ่งจะมี ห่อหมกปลา ห่อหมกหน่อไม้ ห่อหมกหัวปลี โดยส่วนใหญ่ภรรยาของน้าชาติจะเป็นผู้ลงมือทำ รายได้จากการทำห่อหมก โดยหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกวันละ 300-350 บาท 

ส่วนหน้าที่ของน้าชาติ แกจะมีหน้าที่ตะเวนหาของมาขายเพิ่มเติม เพื่อให้มีสินค้าหลากหลายและเพิ่มรายได้ให้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้น้าชาติจะเรียนไม่สูง แต่น้าชาติก็รู้จักวางแผนในการหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว โดยวิธีการวางแผนหารายได้เสริมของน้าชาติคือ ในแต่ละปีน้าชาติจะดูปฎิทิน น้าชาติมองเห็นแล้วว่า 1 ปี มี 12 เดือน และในแต่ละช่วงเดือนของปี น้าชาติจะรู้ว่ามีผลผลิตที่หมู่บ้านไหนออกมาบ้าง เช่น ผัก ผลไม้ หน่อไม้ เห็ดนางฟ้า เห็ดฝาง ปลา ไก่ ลูกอ๊อด และอีกหลายอย่าง เมื่อผลผลิตในท้องถิ่นไหนได้เวลาเก็บเกี่ยว น้าชาติก็จะเข้าไปติดต่อและขอเข้ารับซื้อในราคาที่ถูกเพราะน้าชาติลงมือเก็บเอง 

จะเห็นได้ว่าใน 1 ปี น้าชาติสามารถหาของมาขายได้แทบทุกวัน นับเป็นช่องทางทำเงินง่ายๆไม่ยากเลย แต่ก็อย่างที่บอก อาชีพเสริมของน้าชาติเป็นพ่อค้ารายย่อย แกจึงเข้าไปรับซื้อสินค้าได้ไม่มากนัก รายได้เสริมหลังหักต้นทุนในการรับซื้อเฉลี่ยต่อวันจากการเข้าไปซื้อผลผลิตต่างๆ ก็จะตกวันละ 300-400 บาทต่อวัน รวมกับการขายห่อหมกของภรรยา เมื่อรวมกันก็เป็นเงินประมาณ 700-800 บาทต่อวัน ถึงจะเป็นเงินไม่มากสำหรับบางคน แต่น้าชาติกับภรรยาก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพอเพียง 

ทุกวันนี้น้าชาติไม่มีหนี้สิน แถมยังมีเงินออม อนาคตน้าชาติมีเป้าหมายอย่างหนึ่งคือ เก็บเงินซื้อที่ดินสัก 3 ไร่ น้าชาติเล่าว่าเมื่อถึงวันนั้น น้าชาติก็จะดำเนินชีวิตแบบพอเพียง และนำทฤษฏีใหม่ของพ่อหลวงเข้ามาปรับใช้ โดยน้าชาติจะจัดสรรที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยแบ่งที่ดินเป็นที่อยู่อาศัย 1 ส่วน ปลูกผักผลไม้ พืชไร่ 1 ส่วน ขุดสระกักเก็บน้ำไว้เลี้ยงปลา 1 ส่วน และปลูกข้าวไว้กินในครัวเรือนอีก 1 ส่วน น้าชาติบอกว่าแค่คิดก็มีความสุขแล้ว ถ้าฝันของน้าชาติเป็นจริงแกบอกว่าในแต่ละวันแทบไม่ต้องใช้เงินเลย เพราะมีกินมีใช้ในพื้นที่ของตนเอง แถมมีผลผลิตไว้ขายเพื่อสร้างเสริมสร้างรายได้อีก

      เป็นยังไงครับ กับวิธีหารายได้แบบเรียบง่าย จากอาชีพเสริมจนเป็นอาชีพที่ทำเงิน ตราบใดที่ขยันและรู้จักวางแผนและบริหารจัดการรายได้ที่เข้ามา นายอาชีพเชื่อว่าความฝันของน้าชาติคงไม่ไกลเกินจริงอย่างแน่นอนครับ 

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by archeep


เปิดร้านกาแฟสด ลงทุนอย่างไรให้อยู่รอดและไม่ขาดทุน

ธุรกิจร้านกาแฟ
อาชีพเสริมที่ทำเงินในยุคนี้มีให้เลือกหลากหลายอาชีพ "ธุรกิจร้านกาแฟสด" ก็เป็นอีกช่องทางทำเงินที่เหมาะกับการทำเป็นอาชีพเสริมควบคู่กับการทำงานประจำ 

นายอาชีพเชื่อว่าเพื่อนๆบางคน มีความฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะลงทุนเปิดร้านกาแฟสดเป็นของตัวเองและจินตนาการภาพในการตบแต่งร้านกาแฟให้ดูดี ดูอบอุ่นและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร ผมเชื่อว่าเพื่อนๆที่มีโครงการเปิดร้านกาแฟ ล้วนได้พยายามศึกษาหาข้อมูลว่าการเปิดร้านกาแฟสดต้องลงทุนเท่าไหร่?
ผลตอบแทนดีไหม? จะไปรอดหรือเปล่า?

จะหาแหล่งทุนและสินเชื่อจากที่ไหนดีเพื่อมาเปิดร้านกาแฟ? ข้อมูลทั้งหมดนี้ ผู้ที่คิดจะเปิดร้านกาแฟ (Cafe) คงหามาหมดแล้วใช่ไหมครับ อันที่จริงการเปิดร้านกาแฟสดนั้นผมมองว่าไม่ใช่เรื่องยากและไม่ใช่เรื่องง่าย ขอแค่มีเงินลงทุน มีใจรัก และความรู้ในเรื่องกาแฟ ก็คงพอทำได้ครับ แต่การเปิดร้านกาแฟ แล้วทำให้ร้านอยู่รอดไม่ขาดทุน ได้ทุนคืนเร็ว มีลูกค้าเข้าร้านตลอด สิ่งนี้สิครับ เป็นโจทย์ที่ต้องคิดให้หนัก เพราะมันเป็นเรื่องยากยิ่งที่ร้านกาแฟสดของคุณจะอยู่รอดในกระแสะธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง

" !! อ้าว..แล้วฉันจะจะรู้ได้อย่างไรว่า ร้านกาแฟที่กำลังเปิดจะไปรอดหรือไม่รอด !!"

ไม่ต้องตกใจครับ ก่อนอื่นขอให้เพื่อนๆรู้ก่อนครับว่า ไม่ว่าทำธุรกิจอะไรย่อมมีความเสี่ยงทั้งนั้น แต่ถ้าเราวางแผนไว้เป็นอย่างดี สำรวจปัจจัยต่างๆจนครบ ผมรับรองว่า ความเสี่ยงจะลดลงครับ ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวเพื่อนๆครับว่าจะบริหารร้านได้ดีแค่ไหน เพราะธุรกิจร้านกาแฟ ผมมองว่าเป็นธุรกิจที่ดี และนับวันจะมีผู้คนหันมาดื่มกาแฟเพิ่มขึ้นกันมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงานที่ดื่มกาแฟเป็นประจำไม่ต่างอะไรกับการบริโภคอาหารในแต่ละวันเลย ธุรกิจร้านกาแฟสดจึงมีโอกาสที่จะเติบโตและไปต่อได้อีกไกลครับ เพราะกาแฟ ดื่มที่ไหนก็หอมอร่อยเพื่อนๆว่าไหมครับ


ร้านกาแฟ

สิ่งที่ควรทำก่อนเปิดร้านกาแฟ ต้องคิดให้รอบด้านก่อนแล้วลงมือทำ

แผนธุรกิจ สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนเปิดร้านกาแฟสดก็คือการทำแผนธุรกิจให้ชัดเจน แผนธุรกิจที่ชัดเจนจะเป็นกรอบและแนวทางให้ธุรกิจเป็นระบบมากขึ้น 

สำรวจเงินทุน เงินทุนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเปิดร้านกาแฟแบบเล็กๆหรือยิ่งใหญ่ไฮโซ  ถ้าเงินทุนเป็นเงินเย็นของตนเองก็แล้วไป ผิดพลาดอะไรมาก็ไม่ทำให้ชีวิตลำบากมากจนเกินไป แต่ถ้ากู้ยืมเค้ามาแล้วเกิดผิดพลาด ชีวิตเราจะเป็นทุกข์ที่สุด ดังนั้นจะใช้จ่ายอะไรต้องระวัง ทำแผนธุรกิจให้ออกมาชัดเจนเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้รัดกุม

สำรวจทำเลที่ตั้ง วิเคราะห์คู่แข่ง สำรวจทำเลที่ตั้ง เช็คดูว่าละแวกใกล้เคียงทำเลที่เราจะตั้งร้าน มีร้านกาแฟกี่ร้าน แต่ละร้านตั้งราคาต่อแก้วเท่าไหร่เท่าไหร่ รสชาติดีไหม การตบแต่งร้านเป็นยังไง ที่เหลือเราก็นำมาปรับใช้

สำรวจตลาด กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนนักศึกษาหรือคนทำงาน เมื่อได้กลุ่มเป้าหมาย ก็ถึงเวลาตั้งราคากาแฟเย็น กาแฟร้อน กาแฟปั่น ของร้านเราให้เหมาะสม

การเลือกใช้แบรนด์สินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อแฟรนไชส์กาแฟในแบนรด์ต่างๆ หรือสร้างแบรน์ด้วยตนเอง ต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างๆกันไป เช่น ข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์ คือ ไม่ต้องโปรโมทอะไรมากเพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่ข้อเสียก็มีคือ เรื่องจุกจิก และกฎข้อบังคับต่างๆของเจ้าของแฟรน์ไชส์

สำรวจราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง การออกแบบและการตบแต่ง การออกแบบและการตบแต่างร้านกาแฟเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน แต่ก็ต้องให้อยู่ในกรอบในการใช้จ่ายในแผนธุรกิข การตบแต่งร้านให้ดูดี มีบรรกาศที่ดีและสะอาด มักจะดึงดูดลูกค้าใหม่ๆเข้ามาใช้บริการได้เสมอ  

สำรวจอุปกรณ์ อุปกรณ์ในการชงกาแฟสดมีหลากหลายราคา ทั้งนี้ให้ดูที่ความเหมาะสมในเรื่องอื่นๆประกอบด้วย เช่นทำเลที่มีคนพลุกพล่าน คาดคะเนไว้แล้วว่าจะมีลูกค้าเข้ามาเยอะ แต่ในร้านมีเครื่องชงกาแฟอยู่เครื่องเดียว ทำตามออเดอร์ไม่เคยทันสักที ถ้าเป็นแบบนี้ วันหลังคงไม่มีลูกค้าเข้าร้านอย่างแน่นอน เพราะลูกค้าไม่ชอบต่อคิวและรออะไรนานในชั่วโมงเร่งด่วน

สำรวจวัตถุดิบ เมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟมีหลากหลายเกรด อยู่ที่คุณจะเลือกใช้ ถ้าอยากได้คุณภาพ และรสชาติที่ดีก็ต้องใช้ของดีเกรดเอไปเลย แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือเรื่องของต้นทุนที่สูงขึ้น ดังนั้นเจ้าของร้านกาแฟต้องปรับใช้เอาเองว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร จะได้เลือกใช้เมล็ดกาแฟได้อย่างเหมาะสม

สำรวจรสชาติของกาแฟ (Coffee ข้อดีคงไม่ต้องบอกอะไรมากครับ เพราะต่อให้ร้านกาแฟสดของคุณดูสวยหรู บรรยากาศดีแค่ไหน แต่รสชาติแย่เหมือนน้ำล้างจาน ไม่นานก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านครับ ดังนั้นต้องปรับปรุงรสชาติให้ดีและมีมาตรฐานเข้าไว้  

สำรวจตัวเอง  เจ้าของร้านกาแฟสดควรมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีใจรักในด้านงานบริการ ไม่ว่าธุรกิจจะดำเนินไปด้วยดีหรือมีสดุดก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

โปรโมทให้เป็น เปิดร้านกาแฟใหม่ๆ แน่นอนต้องยังไม่มีใครู้จัก ต้องอาศัยเวลาสักพัก แต่สิ่งที่เจ้าของร้านกาแฟมือใหม่ควรต้องทำก็คือการโปรโมทร้านทุกช่องทางที่ทำได้ เช่น ซื้อสปอทโฆษณาวิทยุ หรือสร้างแฟนเพจในเฟซบุ๊ค การลดราคาช่วงโปรโมชั่น มีคูปองหรือแสตมป์สะสมเพื่อแลกสินค้า 

เป็นยังไงบ้างครับ การเปิดร้านกาแฟสดเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่จริงๆมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะครับ ที่เพื่อนๆต้องศึกษาก่อนเปิดร้าน และเมื่อเราคิดรอบด้านอย่างถี่ถ้วนแล้ว จะทำให้สามารถลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจได้ครับ ผมเชื่อว่าอาชีพเสริมจากการเปิดร้านกาแฟสดจะเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับเพื่อนๆที่มีความมุ่งมั่นอย่างแน่นอนครับ  

ผู้เขียน: นายอาชีพ

นำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย ไม่ใช่เรื่องยาก (Pre-order)


ขายอะไรดี มีคำตอบ
การนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย มีหลากหลายช่องทาง เช่น การติดต่อเพื่อนำสินค้าเข้ามาเอง แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกกับหลายๆคน เพราะมีขั้นตอนอะไรอีกมากมาย 

แต่ก็ยังมีช่องทางในการนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยที่ทั้งง่ายและสะดวก  เป็นวิธีที่ นายอาชีพ จะมาแนะนำ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและเรียกกันติดปากไปแล้วว่า  Pre-order (พรีออเดอร์)

Pre-order (พรีออเดอร์) คืออะไร หมายถึงอะไรนั้น? ขออธิบายแบบสั้นๆง่ายๆเลยละกันนะครับ Preorder คือการที่เราสั่งสินค้าผ่านตัวกลาง และตัวกลางก็ไปติดต่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจากผู้จำหน่ายมาให้เรา ระยะเวลาขนส่งสินค้ามา ก็ประมาณ 15-20 วัน  พูดง่ายๆก็คือ การฝากซื้อของนั่นเอง ส่วนตัวกลางที่เราเลือกใช้บริการ ก็มีให้เลือกมากมาย เช่น บริษัทรับสั่งสินค้า preorder หรือ ร้านค้าต่างๆในเว็บไซต์ที่เปิดรับสั่งสินค้า preorder 

จะสั่งสินค้าแบบ preorder แต่ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาขายดี?
ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ไม่ต้องรีบครับ สินค้ามีให้เลือกมากมายหลากหลายหมวดหมู่ เช่น สินค้าประเภทเครื่องสำอาง น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อาหารเสริม เสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า สินค้าแฟชั่น หรือแม้แต่กระทั่งสินค้า แปลกๆแหวกแนว สินค้าทั่วไปประเภททุกอย่าง 20 บาทที่เราใช้กัน หรือ สินค้าใหม่ๆที่ไม่ซ้ำใคร อาจะเป็นแนวไฮเทค หรือแนวน่ารักก็มีให้เลือก คุณผู้อ่านก็แค่สำรวจตลาดและคาดคะเนดูครับว่าสินค้าตัวไหนแบรนด์ไหนน่าจะขายได้ ตัวเลือกมีเยอะครับ มีหลายแบรนด์หลายประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สินค้าจากอเมริกา จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และในประเทศอื่นๆ

สรุปการสั่งสินค้า preorder ไม่ว่าจะสั่งซื้อทีละมากๆเพื่อนำมาขายเพื่อทำกำไร หรือ จะสั่งน้อยเพื่อนำมาใช้เอง ที่อยากจะบอกก็คือ การเลือกตัวกลางที่เราฝากซื้อของ เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราต้องโอนเงินไปให้ตัวกลางก่อน  และของที่สั่ง กว่าจะมาส่งถึง ก็ประมาณ 15 - 20 วัน เพราะต้องใช้เวลาในการขนส่ง การเลือกตัวกลางที่มีความน่าเชื่อถือ และบริการที่ดีเยี่ยม ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสั่งซื้อสินค้าแบบ preorder ครับ วันนี้พอแค่นี้ก่อน พบกับนายอาชีพใน Blog อาชีพเสริม อาชีพทำเงิน สำหรับวันนี้..ขอให้ทุกคนร่ำรวยๆครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ

5 วิธีเบื้องต้น ในการเลือกซื้อแฟรนไชส์ แบบไม่ให้ขาดทุน

เลือกแฟรนไชส์อย่างไรไม่ให้ขาดทุน
สวัสดีครับ อาชีพเสริมทำเงิน วันนี้จะมาแนะนำ 5 วิธีเบื้องต้นในการเลือกซื้อแฟรนไชส์แบบไม่ให้ขาดทุน 

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ หันมานิยมทำธุรกิจกันมากขึ้น แต่การทำธุรกิจเพื่อให้ประสบความสำเร็จ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน "ธุรกิจแฟรนไชส์" จึงเป็นอีกทางเลือกให้กับนักธุรกิจมือใหม่ที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการระบบ เพราะธุรกิจแฟรนไชส์มีโมเดลธุรกิจที่เจ้าของแฟรนไชส์เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ที่เหลือก็แค่เข้าไปศึกษารายละเอียดปลีกย่อยของธุรกิจนั้นๆ


ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) ทุกวันนี้มีอยู่มากมายให้เลือกหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น แฟรนไชส์ประเภทหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดร้านสะดวกซื้อ หมวดสถาบันการศึกษา หมวดเกี่ยวกับงานบริการ หมวดความสวยความงาม และอื่นๆอีกมากมาย
ด้วยความหลากหลายนี้ ขั้นตอนแรก ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า ตนเองมีใจรักสินค้าและบริการในด้านใด และจะวิเคราะห์และทำนายแนวโน้มเบื้องต้นด้วยว่า แฟรนไชส์ตัวไหนน่าจะเป็นตัวที่ทำเงินให้เราในตอนนี้และในอนาคต
ยกตัวอย่าง แฟรนไชส์ใหม่ๆ หรือ แฟรนไชส์มาแรง และเป็นที่นิยม เช่น แฟรนไชส์ชาไข่มุก แฟรนไชส์กาแฟสด ที่มีสีสันของเครื่องดื่มโดนใจวัยรุ่น หรือแม้กระทั่ง แฟรน์ไชส์เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อเตรียมรองรับ AEC 

ก่อนที่จะถึงกระบวนการในการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์และทำสัญญา

5 วิธีเบื้องต้นในการเลือกซื้อแฟรนไชส์ แบบไม่ให้ขาดทุน 
  1. ศึกษาจุดเด่นจุดด้อยของสินค้าและบริการของแฟรนไชส์
  2. สำรวจตลาด กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคในตัวสินค้า
  3. ศึกษาประวัติบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ ชื่อเสียงของบริษัท ผลการดำเนินงาน ระยะเวลาการก่อตั้ง
  4. ศึกษาความเป็นไปได้ในอนาคตของบริษัทและสินค้า ว่ามีโอกาสเติบโตต่อไปได้ไหม
  5. ตรวจสอบเงินลงทุน เงินรายงวด เงินค่าธรรมเนียม และเงื่อนไขที่เจ้าของแฟรนไชส์กำหนดให้เราต้องจ่าย
ข้อสรุป 
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลให้อย่างลึกซึ้งพอสมควร 5ข้อที่กล่าวมาเป็นเพียงวิธีเบื้องต้นที่เราต้องศึกษา การทำธุรกิจแฟรนไชส์มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมัน

ข้อดีคือ เหมาะกับผู้ที่จะเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ต้องอาศัยความรู้ทางด้านธุรกิจมากนัก โอกาสประสบความสำเร็จก็มีอยู่พอสมควารเพราะมีตัวแบบของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมาให้เห็นแล้ว 

ส่วนข้อเสีย ก็คือผู้ซื้อแฟรนไชส์จะขาดอิสระว่าด้วยเรื่องของเงื่อนไขต่างๆที่เจ้าของแฟรนไชส์กำหนด จงจำไว้ว่าการทำธุรกิจทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนแล้วมีความเสี่ยง เพราะมีหลายๆปัจจัยที่เราไม่สามารถกำหนดและควบคุมมันได้ แต่เราสามารถจำกัดความเสี่ยงได้ ถ้าเราศึกษาข้อมูลให้มากและนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็น อาชีพเสริมทำเงิน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ทำเงิน ทำกำไร ให้ได้เยอะๆ สำหรับวันนี้..สวัสดีครับ 

ผู้เขียน: นายอาชีพ

ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง สุขภาพดีแถมเพิ่มรายได้

อาชีพเสริมรายได้ดี ปลูกผักสวนครัวขาย
เคยไหม? เวลาไปซื้อผักที่ตลาดแล้วรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ผักแพงจัง  ยิ่งมะนาวลูกนึง แพงกว่าไข่ไก่ซะอีก
แต่ก็ต้องจำใจซื้อเพราะต้องใช้ประกอบอาหาร  ช่องทางทำเงินวันนี้ นายอาชีพ จะมาชวนเพื่อนๆปลูกผักสวนครัวไว้กิน เหลือไว้ขาย เพื่อเพิ่มรายได้ จะปลูกไว้เป็นงานอดิเรก หรือจะปลูกเป็นอาชีพเสริมก็ไม่ว่ากัน

พื้นที่ในการปลูกผัก
ไม่จำเป็นต้องมีสวนมีไร่ แค่บริเวณบ้าน ชานบ้าน รั้วบ้าน หรือแม้แต่คนที่อยู่คอนโด อาพารท์เม้นต์ก็สามารถปลูกได้


ไอเดียในการออกแบบพื้นที่ในการปลูกผัก
อันนี้ผมมองว่าสำคัญไม่ใช่น้อย ก่อนอื่นเราต้องคำนวนพื้นที่ใช้สอยก่อน แล้วเริ่มออกแบบและจัดวางวัสดุอัปกรณ์ให้เป็นสัดส่วน เพื่อให้เกิดความสวยงามและสบายตา ใครมาเห็นก็ต้องต่างพากันชื่นชมและอยากทำตาม


ผักที่แนะนำในการปลูก

แนะนำให้ปลูกผักที่เราใช้กินในชีวิตประจำวันและที่เราชอบกิน เช่น กะเพรา โหระพา ผักบุ้ง พริก สะระแหน่ ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี ถั่วงอก มะกรูด มะนาว มันก็แล้วแต่เราว่าอยากจะปลูก
บางคนอาจจะเน้นปลูกง่าย โตเร็ว ดูแลรักษาง่าย ก็ไม่ว่ากัน ยกตัวตัวอย่าง การเพาะถั่วงอก เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ หรือถ้ายากหน่อย ก็ปลูผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นอาชีพเสริมส่งขายที่ห้างเลยก็ไม่ว่ากัน



ทำไมถึงแนะนำให้ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง คำตอบเรียบเรียงไว้เป็นข้อๆตามข้างล่างนี้ครับ
  • ผักที่เราปลูก มั่นใจได้ว่าสะอาดปลอดภัยจากสารปนเปื้อนต่างๆ คนในครอบครัวรับประทานเข้าไป ก็สบายใจได้
  • ก่อเกิดความสุข และความภูมิใจ (ลองดู แล้วจะรู้)
  • เป็นการฝึกสมาธิ ทำให้เราได้ฝึกจิตใจ รู้จักที่จะใจเย็น รู้จักที่จะเอาใจใส่ และรู้จักที่จะรอคอย
  • นอกจากจะได้รับประโยชน์จากสารอาหารและความปลอดภัยแล้ว เรายังได้มิตรภาพจากบ้านใกล้เรือนเคียงอีกด้วย ถ้าเรารู้จักที่จะแบ่งปัน
  • เราสามารถทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้เราได้อีกด้วย เพราะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักที่ตลาด รู้หรือไม่ในแต่ละเดือนเราซื้อผักที่ตลาดเดือนหนึ่งหลายร้อยบาทเลยนะ ยิ่งครอบครัวไหนมีคนเยอะ ก็ยิ่งต้องซื้อเยอะ ดังนั้น ผักที่เราปลูก ถ้าปลูกในปริมาณมากหน่อย เราก็วางขายหน้าบ้านเลยซะเลย หรือถ้าไม่อยากวางขายหน้าบ้าน ก็ติดป้ายว่าที่นี่มีผักปลอดสารพิษจำหน่ายราคาถูก รับรองว่ามีคนมาอุดหนุนแน่ๆ 
ประโชยน์จากการปลูกผักสวนครัว มีอีกมากมาย ได้สุขภาพ ได้มิตรภาพ แถมมีรายได้เพิ่มมาอีก ถ้าเพื่อนๆมีพื้นที่ ก็แนะนำให้ทำเป็นอาชีพเสริมได้เลย รับรองว่าการปลูกผักสวนครัวเป็นอาชีพที่ทำเงินได้อย่างแน่นอน บางคนมีรายได้หลายหมื่นบาทจากการปลูกผักส่งตามห้างสรรพสินค้าก็มี เช่น ผักไฮโดรโปนิกส์ แต่ต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพซักหน่อย สุดท้าย นายอาชีพ ขอให้ทุกคนสุขภาพดี ร่ำรวยเงินทองกันทุกคนครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ
                       

วิธีขายของโดยไม่ต้องมีเงินทุน และ ไม่ต้องสต็อกสินค้า

วิธีขายของโดยไม่ต้องลงทุน
หาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ ตอน 2 การขายของโดยไม่ต้องมีเงินทุน และ ไม่ต้องสต็อกสินค้า 

อาชีพเสริมทำเงินวันนี้ จะมาบอกเล่าถึงอีกหนึ่งวิธีของช่องทางทำเงินให้เพื่อนๆได้นำแนวคิดไปประกอบเป็นอาชีพเสริมกัน นายอาชีพเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนมีความฝันที่อยากจะทำธุรกิจส่วนตัว อยากขายสินค้า แต่ติดที่ว่าเงินลงทุนไม่เพียงพอ หรือไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี บางคนมีเงินแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะกลัวขาดทุน กลัวที่จะล้มเหลว สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรซะที

ถ้างั้นการทำธุรกิจ โดยไม่ต้องมีเงินทุน และ ไม่ต้องสต็อกสินค้า นายอาชีพถือว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุด สำหรับคนที่อยากจะเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว


มาทำความรู้จักกับการทำธุรกิจ Dropship (ดรอปชิบ) 
พูดง่ายๆว่า เป็นการทำธุรกิจแบบจับเสือมือเปล่า หรือจับแพะชนแกะ หรืออะไรแล้วแต่ที่เราจะเรียก

Dropship คือ ระบบบริหารจัดการโดยจะมีตัวกลางคอยสนับสนุนเกี่ยวกับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ รายละเอียดสินค้า พร้อมด้วยราคาพิเศษที่สามารถนำไปขายได้กำไรต่อทันที และยิ่งไปกว่านั้นทางตัวกลางจะจัดส่ง สินค้าไปทางผู้ซื้อโดยตรงด้วย

ยกตัวอย่าง  
นาย A มีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และเป็นเจ้าของสินค้าเสื้อผ้า 
นาย B อยากรับเสื้อผ้ามาขาย แต่ไม่มีเงินลงทุน และไม่มีร้านเป็นของตัวเอง แต่มีความมุ่งมั่นอยากขายเสื้อผ้า จึงได้ทำการติดต่อไปที่ นาย A เพื่อตกลงกันในเรื่องของ Dropship

นาย A ตกลงให้ นาย B เป็นตัวแทนขายเสื้อผ้า โดยนาย A ได้ให้ราคาขายเสื้อผ้าต้นทุนที่ต่ำ  (เมื่อ นาย B ขายเสื้อได้ ก็จะได้กำไรจากการบวกเพิ่มตัวละ 100 บาท)

นาย B นำรูปสินค้าเสื้อผ้าไปทำเป็นแคตตาล็อก และนำลงเว็บไซต์ของตนเอง และโปรโมทขายด้วยความตั้งใจ โดยไม่ได้ลงทุนเรื่องเงินเลย

หลังจากวันนั้นไม่กี่วัน นาย C ได้เข้ามาเห็นสินค้าที่ นาย B โปรโมทในเว็บไซต์ จึงเกิดความสนใจ และทำการสั่งซื้อ

นาย C โอนเงินค่าเสื้อผ้าให้ นาย B  โดยที่ นาย B ได้บวกกำไรเพิ่มไว้เรียบร้อยแล้ว

นาย B โอนเงินกลับไปให้ นาย A ในราคาส่ง

นาย A ส่งสินค้าที่มีอยู่ในสต็อกให้ นาย C

นาย C ได้รับสินค้าที่ส่งมาจาก นาย A


-------------------------------------------------------------------------------- 

การเลือกสินค้าเพื่อนำมาขาย
  • ควรเลือกสินค้าที่มีความแปลกใหม่ 
  • ควรเป็นสินค้าที่ไม่ค่อยมีในท้องตลาดที่คนหาซื้อกันได้ง่าย
สินค้าที่ได้รับความนิยมในการทำ Dropship
  • เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แฟชั่นแนวๆเก๋ๆไม่ซ้ำใคร
  • ครีมบำรุงผิว บำรุงหน้า แบบนำเข้าที่ไม่ได้มีขายในท้องตลาด
  • อื่นๆอีกมากมาย ที่แปลกๆแหวกแนว ใช้ประโยชน์ได้ (คุณต้องเลือกสินค้าที่เจ๋งๆให้ได้)
วิธีการติดต่อเจ้าของสินค้าเพื่อทำ Dropship
  • โทรเข้าไปติดต่อ หรือเดินเข้าไปติดต่อกับเจ้าของสินค้าด้วยตนเองเลย
  • ค้นหาเจ้าของสินค้าในเว็บไซต์ ที่รับการทำ Dropship
เป็นยังไงครับเพื่อนๆ เริ่มสนใจการทำ Dropship กันบ้างแล้วหรือยัง ยังมีสินค้าอีกมากมายนะครับที่รอให้เพื่อนๆเข้าไปเป็นตัวแทนกับบริษัทและห้างร้านนั้นๆ โดยที่เพื่อนๆแทบไม่มีความเสี่ยงอะไรเลยในเรื่องของเงินลงทุน ขอแค่อย่างเดียว คือความมุ่งมั่นและตั้งใจ ที่สำคัญความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น รับรองว่าอาชีพเสริมในการทำDropshipจะต้องเป็นอาชีพที่ทำเงินเป็นอย่างมาก นายอาชีพเห็นหลายๆคนที่ทำDropshipที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน จึงอยากให้ธุรกิจนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำเงินสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการทำธุรกิจ

ผู้เขียน: นายอาชีพ

"บทความที่เกี่ยวข้อง"

หาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ ตอน 1

วิธีหางานเสริม งานพิเศษ แบบง่ายๆ
ปัญหาที่คิดไม่ตกเสมอสำหรับคนที่ต้องการหารายได้เสริม มักมีคำถามที่อยู่ในใจว่าจะหาอาชีพเสริมอะไรดีนะไว้เพิ่มรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในยุคปัจจุบัน 

มีหลายๆคนที่ทำงานประจำที่อยากมีเงินในกระเป๋าเพิ่ม แต่ก็ต้องกลับมานั่งคิดนอนคิดว่าจะทำอาชีพเสริมอะไรดี?ปิดร้านกาแฟ เปิดร้านเบเกอรี่ เปิดร้านอาหาร เปิดร้านขายเครื่องดื่ม เปิดร้านขายเสื้อผ้า หลายๆความคิดผุดขึ้นในหัว แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำสักที เพราะข้อจำกัดทางด้านเวลา อีกไหนจะเรื่องของทักษะและเงินทุน สิ่งที่คิดมาก็ทำให้ฝันสลาย เมื่อมีความคิดด้านลบ 

และเมื่อมีความคิดด้านลบแล้วก็จะทำให้ไม่อยากลงมือทำอะไรทั้งนั้น และท้ายที่สุดคุณก็เป็นมนุษย์เงินเดือนต่อไป คุณอาจจะมองว่าหน้าที่การงานอาชีพของคุณมั่นคงดีอยู่แล้ว ไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีก ขอทำงานกินเงินเดือน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด 

แต่คุณอย่าลืมว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน คงเคยได้ยินคำนี้กันใช่ไหม อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าบริษัทอันมั่นคงที่คุณทำงานและยึดเป็นอาชีพหลัก อยู่มาวันนึงบริษัทจ้างให้คุณออก แล้วคุณมีแผนสำรองไหม? คุณจะทำอย่างไรต่อไปกับอายุที่เริ่มมากขึ้นไปทุกวัน... 

บทความนี้ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณกลัวแต่อย่างใด แต่อยากปลุกพลังให้คุณหายหวาดกลัวจากสิ่งที่คุณพยายามแสวงหา แน่นอนว่าการหารายได้เสริมและรายได้พิเศษ อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่มีเวลาและขาดทักษะ แต่อย่าเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างเลย ทุกๆคนบนโลกใบนี้มี 24ชั่วโมงเท่ากัน ทำไมบางคนทำได้ ทำไมบางคนหาเวลาได้ ทำไมบางคนหาเงินได้มาก "แล้วทำไมคุณถึงจะทำไม่ได้ล่ะ?" ดังนั้นการที่คุณอยากจะมีรายได้เพิ่มขึ้น คุณก็ต้องเรียนรู้เรื่องการบริหารเวลาให้เป็น เพื่อเป้าหมายอันสูงสุดในชีวิต นั่นก็คือ อิสระภาพทางการเงิน

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by: geralt/Gerd Altmann (pixabay)

ติดตาม > หาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ ตอน 2 ขายของโดยไม่มีเงินทุนและไม่ต้องสต๊อกสินค้า

เปิดร้านเบเกอรี่ อาชีพในฝันของใครหลายๆคน

Photo by : laanba on flickr
ก่อนเปิดร้านเบเกอรี่ (Bakery) ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง กำลังคน กำลังเงิน วัสดุอุปกรณ์ การบริหารจัดการ วิธีการเปิดร้านเบเกอรี่ ต้องทำอย่างไร หลายคำถามคงอยู่ในใจของผู้ที่ต้องการเริ่มธุรกิจนี้ใช่ไหมครับ 

อาชีพเสริมอาชีพทำเงิน วันนี้นายอาชีพจะมาว่าด้วยเรื่อง ธุรกิจร้านเบเกอรี่ เชื่อว่าหลายๆคนคงมีความฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง เพื่อทำเป็นอาชีพเสริม หรืออยากจะทำเป็นอาชีพหลักโดยเป็นเจ้าของกิจการอย่างเต็มตัว แต่ก่อนที่จะเปิดร้านเบเกอรี่นั้น เจ้าของธุรกิจจะต้องมีการวางแผนในการบริหารจัดการร้านก่อน ต้องมีความรู้ในการทำเบเกอรี่ และที่สำคัญต้องมีใจรักในสิ่งที่ทำ มาทำความรู้จักธรุกิจเบเกอรี่กันครับ 

ร้านขนมปังหรือร้านเบเกอรี่ (Bakery) คือร้านค้าที่ผลิตขนมอบ อาทิ ขนมปัง พาย เค้ก ขนมปังกรอบ คุกกี้ โดนัท และอีกหลายอย่าง และนำมาวางขายภายในร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อขนมอบสดใหม่จากเตา ร้านขนมปังบางร้านมีมุมกาแฟหรือชาในลักษณะคาเฟ่ให้บริการด้วย ดังนั้นถ้าตั้งใจจะเปิดร้านเบเกอรี่แล้ว ควรขายชาแกแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆเพิ่มเติมไปด้วยเพื่อความหลากหลายภายในร้านและยอดขายที่จะตามมา แต่ธุรกิจร้านเบเกอรี่ใช่ว่าจะปูทางไปด้วยกลีบกุหลาบ หลายๆร้านที่เปิดใหม่มักไปไม่รอดและปิดตัวลง ทั้งนี้มาจากปัจจัยหลายๆอย่าง 

รสชาติและความอร่อย รสชาติของสินค้า บางร้านทำได้แย่มาก หวานไป เค็มไป ขนมปังก็แข็งเกินไป แบบนี้ลูกค้าได้ชิมครั้งเดียวก็คงหนีหมด แถมบอกปากต่อปากอีกด้วย
ข้อแนะนำ ควรเลือกวัตถุดิบชั้นดี มีคุณภาพ เน้นความสดใหม่และสะอาดให้ถือเป็นกฎเหล็ก เจ้าของธุรกิจมือใหม่ ควรศึกษาถึงสูตรต่างๆอย่างลึกซึ้ง และนำมาปรับใช้ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดียิ่งขึ้น  เจ้าของธุรกิจมือใหม่ควรจะเข้าคอรส์เรียนทำเบเกอรี่ มีสถานที่เรียนมากมายทั้งของรัฐและเอกชน ถ้าไม่อยากเสียเงิน มีสอนทำเบเกอรี่และเรียนฟรีอีกต่างหาก แนะนำที่ ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร มีวิชาให้เลือกเรียนมากมาย

การตบแต่งร้าน ควรจัดร้านให้ดูสะอาด โล่ง โปร่ง เห็นแล้วชวนให้เข้าไปนั้ง อุปกรณ์ต่างๆ จาน ช้อน ตู้กระจก เคาท์เตอร์ ไม่ควรให้มีฝุ่น จัดร้านให้ดูดี เป็นระเบียบ และแสงไฟในการแต่งร้านช่วยได้มาก
ข้อแนะนำ บรรยากาศการตบแต่งและแสงไฟภายในร้านเป็นตัวดึงดูด ให้คนที่ผ่านไปมา อยากลองเข้าไปนั่ง การตบแต่งร้านเบเกอรี่ก็แล้วแต่สไตล์ของเจ้าของร้าน เช่น การแต่งร้านให้ดูทันสมัย การแต่งร้านให้ดูอบอุ่น การแต่งร้านให้ดูคลาสสิก การเลือกโต๊ะเก้าอี้ให้เข้ากับร้านก็เป็นส่วนสำคัญ

การบริการ จงจำไว้ว่าลูกค้าคือพระเจ้า ร้านเบเกอรี่ที่มีเจ้าของยืนขายเอง หรือจ้างคนมาดูแลร้าน จำเป็นอย่างมากที่ต้องเน้นเรื่องการบริการ การให้ความเป็นมิตร การยิ้มแย้มแจ่มใส ความสุภาพ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ลองนึกถึงว่าเราเป็นลูกค้าและไปเจอร้านเบเกอรี่ที่บริการแย่ คุณจะเข้าอีกไหม
ข้อแนะนำ การจัดการอบรมพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ และเจ้าของร้านควรติดกล้องวงจรปิด เพื่อดูพฤติกรรมของลูกจ้าง และตัวเจ้าของร้านเอง ต้องเป็นตัวแบบและผู้นำให้ลูกจ้างทำตามในเรื่องของการบริการ

ราคาสินค้าในร้าน ควรกำหนดราคาให้เหมาะสม ไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไป
ข้อแนะนำ สำรวจและสังเกตุตลาดและดูความนิยมในการบริโภคของร้านอื่นๆ และนำมาปรับกับร้านของเรา

ทำเลที่ตั้ง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินทุน ถ้าร้านเบเกอรี่อยู่ใกล้ที่ชุมชนและรสชาติขนมภายในร้านอร่อย อันนี้คงไม่ต้องบอกว่าขายดิบขายดีแน่ๆ แต่ถ้าทำเลไม่ได้อยู่ที่ชุมชนอันนี้เราต้องหาจุดแข็งของร้านเราแล้วล่ะว่าร้านเรามีอะไรดี เช่นขนมอร่อยมาก ราคาไม่แพงเวอร์ บริการดีเยี่ยม แล้วคนจะบอกกันปากต่อปากเองว่าร้านเราอยู่ไหน
ข้อแนะนำ ในกรณีที่ร้านอยู่ไกลที่ชุมชน ควรทำการตลาดให้มากหน่อย เช่นโปรโมทร้านทางเว็บไซต์ หรือ การมีส่วนลดพิเศษ ของแถม ต่างๆ

การบริหารจัดการ การลงทุนเปิดร้านเบเกอรี่ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กๆหรือร้านใหญ่ แนะนอนว่า สินค้าภายในร้านจะต้องมีเยอะและหลากหลาย การทำงานคนเดียวคงเหนื่อยเอาการ การจ้างคนมาทำงานช่วย จะช่วยให้ร้านเป็นระบบมากขึ้น แต่ถ้าคิดว่าทำคนเดียวไหว ก็ลุยเลย
ข้อแนะนำ ในการเพิ่มสินค้าให้มีหลากหลายภายในร้าน เจ้าของร้านเบเกอรี่ อาจจะรับขนมจากที่อื่นมาขายก็ได้ โดยรับมาและติดแบรนด์สินค้าที่เป็นของเรา แต่เจ้าของร้านเบเกอรี่ต้องคัดและเน้นที่รสชาติของความอร่อย คัญที่สุดคือความสดใหม่และสะอาด

วิเคราะห์ : เปิดร้านเบเกอรี่ ไปได้ไกลแค่ไหน
จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ วัฒนธรรมตะวันตก เข้ามามีบทบาทมากในประเทศไทย การเข้าร้าน bakery การกินอาหารฟาสต์ฟู้ด( fast food ) ต่างๆ เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะความสะดวกรวดเร็ว ธุรกิจเบเกอรี่ที่มีการบริหารจัดการที่ดี และมีรสชาติอร่อยรับรองว่าไปได้อีกไกล ความหอมหวานของเบเกอรี่นั้นมีแรงดึงดูด เพราะคนวัยไหนก็ทานได้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงและเด็ก อีกทั้งคนวัยทำงานที่ชอบความสะดวกรวดเร็ว ธุรกิจร้านเบเกอรี่ไม่ได้เปิดยากอย่างที่คิด เพราะทุกวันนี้มีแฟรนไชส์ร้านเบเกอรี่ให้เลือกมากมาย แต่ถ้าอยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ก็ไม่ว่ากัน เพราะถ้าร้านเราติดตลาดก็รับเต็มๆไม่ต้องแบ่งให้ใคร
ข้อแนะนำ ก่อนเปิดร้านเบเกอรี่ เจ้าของธุรกิจมือใหม่ควรหัดทำขนมหลายๆแบบแล้วเอาให้คนรอบข้างชิม แต่อย่าบอกว่าเราเป็นคนทำเอง ให้บอกว่าไปซื้อมา แล้วดูเสียงตอบรับว่ารสชาติเป็นอย่างไร ถ้ามีเสียงตอบรับดี และคนรอบข้างบอกว่าซื้อที่ไหน พาไปซื้อหน่อย แสดงว่าท่านมีแววแล้วล่ะ มาถึงตอนนี้การหารายได้พิเศษและรายได้เสริม ในที่สุดก็จะกลายมาเป็นอาชีพทำเงินและเติบโตเป็นธุรกิจครอบครัวให้ลูกหลานต่อไป

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by : laanba on flickr


เทคนิคและวิธีการทำกำไรจากการขายเสื้อผ้า ภาค 3

เทคนิคการขายเสื้อผ้า
สวัสดีครับ วันนี้นายอาชีพจะนำเสนอบทความเรื่อง เทคนิคและวิธีทำกำไรจาการขายเสื้อผ้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง หลังจากที่ได้เขียนบทความ วิธีการรับเสื้อผ้ามาขาย และ วิธีการับเสื้อผ้าต้นทุนต่ำมาขาย เพื่อเป็นอาชีพเสริม ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเนื้อหาในบทความเรื่องวิธีการรับเสื้อผ้ามาขายนั้นก็ได้กล่าวถึง การไปหาแหล่งรับเสื้อผ้าจากที่ไหนมาขาย ในราคาที่ถูกและต้นทุนต่ำ มาถึงบทความนี้เราจะมาว่าด้วยเรื่องของการทำกำไรจากการขายเสื้อผ้ากันครับ

  • ขั้นตอนแรก วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ก่อนเปิดเร้านเราต้องวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเราก่อนครับว่าคือใคร และเราจะขายให้ใคร 
          แยกเพศ เช่น เสื้อผ้าผู้ชาย เสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าเกย์ เสื้อผ้าทอม
              แยกอายุ เช่น เสื้อผ้าเด็กอ่อน เสื้อผ้าเด็กเล็ก เสื้อผ้าเด็กโต เสื้อผ้าวัยรุ่น เสื้อผ้าคนทำงาน    เสื้อผ้าผู้ใหญ่ เสื้อผ้าคนแก่คนมีอายุ
                แยกสไตล์  เช่น เสื้อผ้าใส่เล่น เสื้อผ้าใส่เที่ยว เสื้อผ้าใส่นอน เสื้อผ้าแนวเซ็กซี่ เสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อผ้าเกาหลี เสื้อผ้าญี่ปุ่น เสื้อผ้าไฮโซ เสื้อผ้าคนอ้วน เสื้อผ้าคนผอม
               
      • ขั้นที่สอง ทำเลและภูมิศาสตร์ เพื่อนๆจะต้องหาทำเลให้ดีก่อนเปิดร้าน ยิ่งมีคนเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี เช่นทำเลที่ตั้งใกล้มหาวิทยาลัย หรือย่านธุรกิจ บริษัท หรือสถานที่ที่นักเรียนนักศึกษา หนุ่มสาวออฟฟิศเค้าเดินกัน ซึ่งค่าเช่าก็จะอาจมีราคาแพงไปตามทำเลครับ ส่วนผู้ที่มีทุนน้อยหรือเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือใหม่นายอาชีพขอแนะนำให้เริ่มจากการวางขายตามตลาดนัดไปก่อนและควรสังเกตุดูด้วยว่าตลาดนัดที่ไหนที่คนชอบไปเดินกัน
      • ขั้นตอนที่สาม การตบแต่งร้าน เรื่องนี้สำคัญมากครับ อย่างที่เค้าว่าไก่งามเพราะคนคนงามเพราะแต่ง หน้าร้านหน้าบ้านก็เช่นกันครับ เป็นสิ่งแรกเลยที่คนเดินผ่านจะหยุดดูหรือเดินผ่าน การจัดร้าน การใช้แสง เป็นสิ่งที่สำคัญหลีกเลี่ยงไม่ได้ ร้านที่มีเสื้อผ้าดีๆแต่แต่งหน้าร้านและใช้แสงไฟที่จืดๆไม่ได้เรื่อง จะทำให้เสื้อผ้าในร้านดูไม่น่าซื้อเป็นอย่างมากครับ ใครเห็นก็เดินผ่าน
      • ขั้นตอนที่สี่ หาแหล่งรับเสื้อผ้าเพื่อมาขาย   ยิ่งต้นทุนต่ำเท่าไหร่เรายิ่งได้กำไรครับ เสื้อผ้าราคาส่งที่มีราคาถูกและมีคุณภาพ อันนี้ได้กล่าวไปแล้วในบทความก่อนว่าต้องไปซื้อที่ไหน สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาอ่านดูที่นี่ครับ แหล่งรับเสื้อผ้ามาขายราคาถูก
      • ขั้นตอนที่ห้า กำหนดราคาของเสื้อผ้าให้เหมาะสม พ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้าไม่ควรที่จะตั้งราคาขายเสื้อผ้าแพงจนเกินไปนะครับ เพราะลูกค้ามาซื้ออย่างมากก็มาแค่ครั้งสองครั้ง เมื่อลูกค้ารู้ว่าซื้อเสื้อผ้าแพงกว่าที่อื่น เค้าจะไม่มาร้านท่านอีกเลย แถมบอกปากต่อปากอีกด้วยครับ ว่าร้านของท่านขายแพง อย่าไปเข้าเลย ไปร้านอื่นดีกว่า (แนะนำให้กินยาวๆดีกว่าครับ)
      • ขั้นตอนที่หก ยิ้มพิมพ์ใจ การบริการที่ดีเป็นสิ่งสำคัญยิ่งครับ พ่อค้าแม่ค้าที่หน้าตาบูดบึ้ง ถามหน่อยครับว่าใครอยากจะเข้าร้าน เทคนิคครับ ต้องมีลูกล่อลูกชน การพดูการจาต้องเป็นกันเองกับลูกค้า มีบริการหลังการขายที่ดี เมื่อลูกค้าประทับใจก็จะกลับมาซื้ออีกและมีการบอกกันปากต่อปากครับว่าร้านเพื่อนๆตั้งอยู่ที่ไหน ไกลแค่ไหนลูกค้าก็กลับมาครับ
      • ขั้นตอนที่เจ็ด โปรโมชั่น การลดราคา การมีของแถม เป็นเรื่องที่คนไทยชอบครับ เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าได้กำไร รู้สึกคุ้มค่า และไม่ถูกเอาเปรียบ
      ขั้นตอนทั้ง 7 นี้ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ถ้าเพื่อนๆที่ขายเสื้อผ้าอยู่ หรือกำลังคิดที่จะเริ่มธุรกิจขายเสื้อผ้า ถ้าทำได้ทั้ง 7 ข้อแล้ว นายอาชีพเชื่อว่าร้านท่านจะขายดีดิบขายดี ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำอย่างมากเลยครับ ติดตามอาชีพเสริมอาชีพทำเงินกับนายอาชีพในบทความต่อไปนะครับ

      ผู้เขียน: นายอาชีพ

      ย้อนอ่าน >>   วิธีการรับเสื้อผ้ามาขาย ภาค 1  

      ย้อนอ่าน >>   วิธีการรับเสื้อผ้าต้นทุนต่ำมาขาย ภาค 2

      Photo by Christian Guthier

      แนวทางการสะสมของเก่า ของโบราณ ไว้เพิ่มมูลค่า


      Photo: by joe.(atruestory) on flickr
      การขายของสะสม ของเก่า ของโบราณ เมื่อก่อนเชื่อว่าหลายๆคนมีงานอดิเรกอย่างนึงคือการสะสมสิ่งที่ตนเองรักและชอบ พอวันเวลาได้ผ่านไปสิ่งต่างๆที่เราสะสมก็ไม่ได้รับความสนใจ ปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา แต่ยังมีอีกหลายคนนะครับ ที่ดูแลของเหล่านั้นให้คงสภาพเดิมและเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในที่สุดของเก่าเหล่านั้นกลับกลายเป็นของที่มูลค่ามาก และเป็นที่ต้องการของนักสะสมรุ่นใหม่ 

      ยกตัวอย่าง เช่น 
      แสตมป์(ติดซองจดหมาย) บางคนสะสมเก็บไว้หลายสิบปี ทุกวันนี้สามารถขายได้เป็นหลักพันหลักหมื่น ทั้งๆที่ต้นทุนไม่กี่บาท 

      โปสเตอร์ภาพยนตร์(ของแท้) ถ้าคุณมีโปสเตอร์หนังเก่าๆที่เก็บไว้เป็นอย่างดี แผ่นกระดาษแผ่นนี้ทำเงินให้คุณแน่นอน

      เทปคาสเซ็ท เพลงเก่าๆ ที่เด็กๆรุ่นนี้คงไม่รู้จัก นำมาขายได้เลยครับ มีคนต้องการอีกมาก

      หนังสือเก่า ยิ่งตีพิมพ์ครั้งแรกยิ่งดี รีบนำมาปัดฝุ่นซะ แล้วนำมาประกาศขายทางเวป 

      พระเครื่อง เป็นที่รู้กันครับ พระเครื่องเก่าๆดังๆ ราคาก็ปาเข้าไปหลักแสนหลักล้าน หรือจะเก็บไว้เป็นมรดก ก็ไม่ว่ากัน

      ของเล่น(โบราณ) หุ่นสังกะสี รถสังกะสี ใครจะคิดละครับว่าของเล่นสมัยก่อนที่เราเล่นแล้วโยนทิ้ง จะมีค่าและสร้างรายได้ในวันนี้

      เครื่องใช้ของใข้ในบ้านสมัยก่อน  จานทองเหลือง เข็มขัดทองเหลือง จักร์เย็บผ้าโบราณ ตะเกียง เตารีดโบราณ เครื่องพิมพ์ดีดเก่า โทรศัพท์โบราณ 

      ยานพาหนะ จักรยานโบราณ มอเตอร์ไซค์โบราณ รถยนต์โบราณ

      ไม้เก่า เป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย นำมาประดับร้านค้า เก๋อย่าบอกใคร

      ตู้เก็บยาโบราณ ทีวีขาวดำ วิทยุโบราณ และอีกหลายอย่างครับ

      ในเวปไซต์ทุกวันนี้ประกาศรับซื้อของโบราณกันแทบทุกวัน อย่าดูถูกของเก่านะครับ มูลค่าของมันสูงครับโดยเฉพาะกับคนที่เห็นคุณค่าในสิ่งของเหล่านั้น

      ที่กล่าวมายังไม่หมดนะครับ ยังมีของเก่าของสะสมอีกมากที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราเพียงแค่คุณต้องดูแลรักษาของเหล่านั้นบ้าง แค่นั้นก็พอ

      แนวทางในการยึดอาชีพการสะสมของเก่าเป็นอาชีพเสริม
      ง่ายๆครับ คุณก็เริ่มสะสมหรือลงทุนรับซื้อของเก่าที่มีลักษณะให้คุณค่าทางจิตใจ ยกตัวอย่าง ไปเที่ยวบ้านเพื่อนแล้วเหลือบไปเห็นกองหนังสือเก่าหรือของที่นายอาชีพได้เขียนไว้ข้างต้น ที่เจ้าของบ้านมองว่ารกบ้านและไม่ต้องการ ก็ขอซื้อต่อเค้ามาเลยครับ น้ำมาปัดฝุ่นให้มีสภาพที่ดูดี แล้วคุณก็นำมาขายต่อ งานอดิเรกกับการสะสมของเก่าก็กลายเป็นอาชีพที่ทำเงินได้อย่างแน่นอนครับ

      ผู้เขียน: นายอาชีพ


      แหล่งรับรองเท้ามาขาย : รองเท้ามือหนึ่ง รองเท้ามือสอง

      แหล่งรับร้องเท้ามือสองมาขาย

      วิธีการรับรองเท้ามาขาย (รองเท้ามือหนึ่ง) และ (รองเท้ามือสอง)

      บทความก่อนได้พูดถึงเรื่องวิธีการรับเสื้อผ้ามาขายไปแล้ว บทความนี้จะมาว่าด้วยเรื่องวิธีการรับรองเท้ามาขาย พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่ต้องการขายรองเท้า มักบ่นว่าจะไปรับรองเท้าจากที่ไหนมาขาย หรือ รับรองเท้ามือสองมาขาย จะต้องทำอย่างไร นายอาชีพก็รวบรวมแหล่งหาซื้อรองเท้ามือหนึ่งและรองเท้ามือสองมาให้สำหรับผู้ที่ต้องการหาอาชีพเสริมหรือหารายได้พิเศษจากการขายรองเท้ามาฝากครับ

      แหล่งรับซื้อรองเท้ามือหนึ่งและรองเท้ามือสองมาขาย

      ตลาดโรงเกลือ  อ. อรัญประเทศ  สินค้าในตลาดโรงเกลือนั้นมีมากมายมีทั้งสินค้าใหม่และเก่า เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพชร พลอย เครื่องเงิน และอีกมากมายหลายอย่าง ตลาดโรงเกลือมักจะเป็นของแบรนด์เนมแต่ตอนเลือกเราต้องคัดเลือกหน่อยเพื่อให้ได้สินค้าในสภาพที่ดี วิธีการซื้อก็มีอยู่2แบบ 
      แบบแรก คือ ซื้อแบบยกกระสอบ มองไม่เห็นสินค้า เรียกได้ว่าซื้อรองเท้ามือสองแบบวัดดวง และ 
      แบบที่สอง คือ ซื้อแบบคัดเลือกได้ เราสามารถตรวจสภาพสินค้าได้ แต่ราคาก็จะแตกต่างจากซื้อแบบยกกระสอบ

      สำเพ็ง แถวซอยคิคุยา จากหน้าห้างเอทีเอ็ม เดินไปทางซ้ายจะเห็นสะพานลอย ฝั่งตรงข้ามสะพานลอบจะมีซอย ปากซอยจะขายขนมเยอะ (แถวนี้เรียกว่าสะพานหัน) เดินเข้าซอยเดินไปเรื่อย ๆ ไกลเหมือนกัน จะไปทะลุถนน (ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นสี่แยกวัดตึก) ให้ข้ามถนน เข้าซอยไป (ตรงนี้เริ่มเรียกสำเพ็งแล้ว) เดินไปจนทะลุถนนเข้าท่าน้ำราชวงศ์ ข้ามถนนไป ตรงนี้ที่เรียกกันว่าแถบคิคูย่าสำเพ็งครับ (ปากซอยจะเป็นร้านคิคูย่า ธนาคารกรุงศรีฯ) ที่นี่มีของให้เลือกมากมาย สินค้าเบ็ดเตล็ด เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของเล่น ของชำร่วย อื่นๆ มากมาย

      ตลาดวังหลัง แถวศิริราช  มีสินค้ามากมาย ทั้งของกินอร่อยๆ ของใช้ใหม่และเก่า ของมือสอง(Second Hand) ตั้งแต่ รองเท้ามือสอง ,เสื้อผ้ามือสอง, กระเป๋ากระเป๋ามือสอง, เครื่องประดับ และอีกมากมายมายั่วคุณจนกระเป๋าเงินคุณแทบฉีก

      เวปไซต์ต่างๆ  ที่ประกาศขายส่งรองเท้ามือหนึ่ง มีรองเท้าให้เลือกมากมาย เช่น รองเท้าแฟชั่นส้นสูง-ส้นเตี้ย นำสมัยหลากหลายรูปแบบราคา ตัวอย่างราคาที่ขายในเวปไซต์ต่างๆเริ่มต้นที่ 60-120 บาท รองเท้าผ้าใบชาย-หญิง ราคาเริ่มที่ 100-190 บาท รองเท้าแตะแฟชั่น 25-60 บาท

      เวปไซต์ต่างๆ ที่ประกาศขายส่งรองเท้ามือสอง สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่ขี้เกียจเดินทางไปเสาะแสวงหาสินค้าด้วยตัวเอง ก็สั่งจากทางเวปไซต์ก็ได้ แต่ต้องเลือกเวปไซต์ที่น่าเชื่อถือหน่อย ทุกวันนี้มีเวปมากมายเปิดขายรองเท้าแบบขายส่ง เราก็แค่ใจเย็นๆไม่ต้องรีบสั่งของ ค่อยๆเลือก ตราบใดที่เงินยังอยู่กับเรา เรามีสิทธิ์เลือก 

      Pre-order ยกตัวอย่าง สั่งจากจีน เดี๋ยวนี้มีบริษัทในไทยเปิดเวปไซต์รับเป็นตัวแทนในการหาวัตถุดิบที่เราต้องการ เพียงเราแค่ติดต่อผ่านบริษัทนั้นๆ และแจ้งสิ่งที่ต้องการ จากนั้นเราก็ชำระเงิน เค้าก็เป็นตัวกลางในการจัดหาสินค้ามาให้ เราก็จะได้รับสินค้าอย่างต่ำๆก็ประมาณ 15 วัน เรียกง่ายๆว่าสั่งสินค้าแบบ พรีออเดอร์ pre-order  โปรโมชั่นก็มีให้กับลูกค้า เช่นฟรีค่าหิ้ว ฟรีค่าโอน ฟรีค่าขนส่ง เวบตัวอย่างสินค้าต่างๆของจีน

      การเจาะกลุ่มลูกค้า 
      พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ต้องถามตัวเองด้วยว่าจะขายรองเท้าให้ใคร เพศ อายุ สถานที่ตั้งร้าน ใกล้ย่านธุรกิจไหม หรือใกล้มหาวิทยาลัย เพราะรองเท้ามีหลากหลายรูปแบบ
      เช่น รองเท้าผู้ชาย รองเท้าผู้หญิง 
      แยกออกมาได้อีก 
      รองเท้านักเรียน รองเท้าสำหรับทำงาน รองเท้าใส่เล่น รองเท้าใส่เล่นกีฬา รองเท้าแฟชั่น 
      ถ้าเราเจาะกลุ่มลูกค้าถูก รับรองว่าจากอาชีพเสริมจากการขายรองเท้า จะไม่ใช่อาชีพเสริมอีกต่อไป เพราะรายได้มากกว่าการทำงานประจำ  
      รายได้จากขายรองเท้ามือสอง เป็นรายได้ที่ดี กำไรงามพอสมควร สำหรับใครที่สนใจ ที่ต้องการทำเป็นอาชีพเสริม รับรองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทำเงินได้ดีทีเดียว เห็นไหมครับการหารายได้พิเศษไม่ใช่เรื่องยากเลย
      นายอาชีพก็รวบรวมคร่าวๆมาให้ เดี๋ยวคราวหน้าจะหาแหล่งขายรองเท้ามือหนึ่งและมือสองมาให้อีก 


      เขียนโดย: นายอาชีพ


      Popular