เพาะเห็ดฟางในตะกร้าขายเป็นอาชีพเสริม ทำง่ายแถมสร้างรายได้อย่างมั่นคง

การเพาะเลี้ยงเห็ดฟางในตะกร้า
"ในช่วงที่่ผ่านมานายอาชีพสังเกตุเห็นเกษตรกรในหลายๆพื้นที่ เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการเพาะเลี้ยงเห็ดฟางขายเพื่อเป็นอาชีพเสริมกันมากขึ้น" 

แม้แต่ชาวสวนยางทางภาคใต้ก็เริ่มหันมาทำฟาร์มเพาะเลี้ยงเห็ดฟางกันบ้างแล้ว คงเป็นเพราะราคายางที่เริ่มตกต่ำ ทางแก้ก็คงต้องหาอาชีพเสริมที่ทำเงินและสามารถเพิ่มรายได้มาทดแทนในส่วนที่เสียไป "ถามว่าทำไมต้องเป็นเห็ดฟาง?" เหตุผลง่ายๆก็คือ เห็ดฟางเป็นพืชเศรษฐกิจ มีคุณค่าทางอาหารสูง คนไทยนิยมบริโภคและเป็นที่ต้องการของตลาด เห็ดฟางสามารถเพาะเลี้ยงได้ทุกฤดูกาล อีกทั้งราคาขายของเห็ดฟางก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเลยทีเดียว (ราคาของเห็ดฟางจะดีมากในช่วงฤดูหนาวและช่วงเทศกาลกินเจ) และที่สำคัญผลผลิตสามารถเก็บไปขายได้ภายใน 7-12 วัน รวดเร็วทันใจ วงจรเก็บผลผลิตใช้เวลาสั้นมาก ถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเห็ดฟางเป็นอย่างมาก

การเพาะเห็ดฟางมีหลายรูปแบบ อาทิเช่น  การเพาะเห็นฟางในโรงเรือน การเพาะเห็นฟางในนาข้าว การเพาะเห็นฟางในตะกร้า การเพาะเห็นฟางแบบกองเตี้ย และอื่นๆ ทั้งนี้รูปแบบการเพาะเลี้ยงเห็ดฟางของแต่ละกลุ่มและบุคคลจะไม่เหมือนกัน ด้วยเพราะปัจจัยต่างๆ เช่น ทำเลและพื้นที่ รวมไปถึงเงินลงทุน

มาเพาะเห็นฟางในตะกร้ากันเถอะ
ในบทความนี้นายอาชีพก็จะมาแนะนำเพื่อนๆมาเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เพราะการเพาะเห็ดฟางในตะกร้านั้น ใครๆก็ทำได้ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นและมีความตั้งใจที่จะทำเป็นอาชีพเสริม  การเพาะเห็ดฟางในตะกร้านั้นใช้พื้นที่น้อย และลงทุนไม่สูง วัสดุอุปกรณ์ต่างๆก็หาง่ายมีอยู่รอบตัวเรา ถ้าผิดพลาดทางเทคนิคก็ถือซะว่าเป็นการทดลอง (ซึ่งก็ต้องมีบ้าง) แต่ถ้าผลผลิตออกมาดีเกินที่คาดเอาไว้ ก็แสดงว่าเรามีแววทางด้านนี้แล้วล่ะ แนะนำให้เตรียมเงินลงทุนและต่อยอดทำเป็นฟาร์มเพาะเห็ดแบบครบวงจรได้เลยครับ 

ขั้นตอนและเทคนิควิธีการเพาะเห็นฟางในตะกร้า
ก่อนอื่นเราต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนนะครับ โดยเตรียมก้อนเชื้อเห็ดฟาง ตะกร้าพลาสติก ฟางข้าว  สุ่มไก่หรือโครงโรงเรือน พลาสติกและวัสดุพลางแสง ส่วนพวกอาหารเสริมก็จะมี แป้งสาลี ผักตบชวาหรือรำละเอียด
1. ทุบก้อนเชื้อเห็ดฟางในถุงให้แตกพอประมาณแต่ไม่ต้องให้ถึงกับละเอียด นำมาผสมกับแป้งสาลี 1ช้อนชา จากนั้นแบ่งก้อนเชื้อเห็ดฟางออกเป็น 2กอง กองละเท่าๆกัน (เชื้อเห็ดฟาง 1 ถุง แบ่งออกเป็น2กองสามารถเพาะเห็ดฟางได้ 2 ตะกร้า)
2. ให้ใส่ฟางข้าวที่ผ่านการแช่น้ำไว้แล้ว 1 คืน ลงไปในตะกร้า ให้ฟางข้าวมีความสูงประมาณ 2-3 นิ้ว กดให้พอแน่น
3. โรยอาหารเสริมลงไป จะเป็นผักตบชวาที่หั่นไว้หรือรำละเอียดก็ได้ โรยลงไปรอบๆบนฟางข้าว แต่อย่าใส่อาหารเสริมมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการเน่าเสียได้
4. นำเชื้อเห็ดฟางมาโรยรอบๆทับไปบนอาหารเสริม โดยเน้นโรยที่ช่องของตะกร้า ถึงตอนนี้เราจะได้เป็น ชั้นที่ 1 เรียบร้อย (1ตะกร้าจะต้องทำ 3 ชั้น)
5. ทำชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 ด้วยวิธีการเดิมแบบข้างต้น จากนั้นปิดชั้นที่ 3 ด้วยฟางข้าว จากนั้นรดน้ำใส่ตะกร้าให้เปียกชุ่ม (ถึงตอนนี้เราก็จะได้ตะกร้าเพาะเห็ดฟาง 1 ตะกร้าเป็นที่เรียบร้อย)
6. นำตะกร้าเห็ดฟางไปวางไว้บนพื้นที่ที่เราเตรียมไว้ วางไว้บนเหนือพื้นดินประมาณ 3-4นิ้ว (นำก้อนอิฐมาวางรองเป็นฐานอย่าให้ติดพื้น)
7. จากนั้นก็นำโครงไม้ไผ่หรือสุ่มไก่มาครอบตะกร้า
8. นำพลาสติกมาคลุมโครงหรือสุ่มจากด้านบนถึงพื้นให้มิดชิดจากนั้นก็คุมด้วยวัสดุพลางอีกที

ขั้นตอนดูแลเห็ดฟางในตะกร้าเพาะเลี้ยง
1. รักษาอุณหภูมิในโรงเรือนให้อยู่ที่ประมาณ 30 -40 องศา
2.ในวันที่4 ช่วงตอนเย็น ให้เปิดพลาสติกที่คลุมออกเพื่อให้อากาศเข้าไปกระตุ้นเส้นใย ใช้เวลาเปิดรับอากาศประมาณ 30 นาที
3.ในวันที่ 5 เป็นต้นไป ในช่วงตอนเย็น ให้เปิดพลาสติกที่คลุมสุ่มพอประมาณ ให้อากาศถ่ายเทใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นก็คลุมพลาสติกให้มิดชิดเหมือนเดิม
4. ในวันที่ 7 ช่วงนี้เห็ดฟางจะเจริญเติบโตขึ้น สามารถเก็บผลผลิตได้ในวันที่ 8-9
5. การเก็บเห็ดฟางควรเก็บด้วยความนุ่มนวลอย่าให้บอบช้ำ จากนั้นก็นำส่งขายที่ตลาดหรือนำไปบริโภคได้เลย

นายอาชีพลืมบอกเพื่อนๆไปว่าการเพาะเห็ด 1 ตะกร้า สามารถเก็บเห็ดฟางได้ 2 ถึง 3 รุ่น และการเพาะเห็ด 1 ตะกร้า สามารถเก็บเห็ดฟางได้ประมาณ 1 กิโลกรัม ราคาขายเห็ดฟาง 1กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 50-100บาท (แล้วแต่ช่วงฤดูกาลและเทศกาล) 

ช่องทางทำเงินทางการตลาดในการขายเห็ดฟางนั้นมีหลายช่องทางมากครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะขายในช่องทางไหน จะติดประกาศให้คนเข้ามารับซื้อในฟาร์ม จะวางขายที่หน้าฟาร์ม หรือจะส่งตลาดสดก็ได้ ยิ่งถ้ามีผลผลิตออกมามากแนะนำให้ขายส่งกับทางตลาดไทเลยครับ

สรุปเรื่องการเพาะเห็ดฟางเป็นอาชีพเสริม
ธุรกิจการทำก้อนเชื้อเห็ดฟางขาย และ การเพาะเห็ดฟางขาย ทั้งสองแนวทางนี้ถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่ดีเลยทีเดียว เป็นที่รู้กันดีว่าเห็ดฟางเป็นเห็ดที่คนไทยนิยมบริโภคเป็นอย่างมากและเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา เห็ดฟางสามารถทำรายได้และให้ผลตอบแทนสูง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ จึงคุ้มค่าต่อการเพาะเลี้ยง ดังนั้นการเพาะเห็ดฟางขายจึงถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนๆที่สนใจทำธุรกิจฟาร์มเห็ดและไม่ว่าจะเป็นเห็ดชนิดไหนก็ตาม นายอาชีพแนะนำให้ศึกษาหาความรู้ทฤษฏีในการปฎิบัติ รวมไปถึงปัญหาอุปสรรคในการเพาะเลี้ยงเห็ดให้มากๆ นายอาชีพเชื่อว่าธุรกิจนี้ยังไปได้อีกไกลมาก ที่สำคัญธุรกิจเพาะเลี้ยงเห็ดฟางสามารถทำเงินและยึดเป็นอาชีพหลักที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน

ผู้เขียน: นายอาชีพ

ทำเงินง่ายๆ ขายภาพถ่ายจากกล้องมือถือ ช่องทางในการสร้างรายได้เสริม ที่ใครๆก็ทำได้!

วิธีหาเงินจากแอป
สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกท่าน พบกันอีกเช่นเคยกับนายอาชีพ บล็อกเกอร์หนุ่มสุดหล่อ ที่จะมาแนะนำช่องทางการหาอาชีพเสริมที่ทำเงินให้กับเพื่อนๆอีกเช่นเคยครับ

เนื้อหาในบทความนี้ก็จะว่าด้วยเรื่อง "วิธีการขายภาพถ่ายจากกล้องมือถือ ผ่านแอพพลิเคชั่นสุดฮิต ที่มีชื่อว่า Clashotซึ่งตอนนี้กระแสการขายภาพถ่ายจากกล้องมือถือ กำลังเป็นที่นิยมของคนไทยหลายๆคน รวมไปถึงชาวต่างชาติในอีกหลายๆประเทศกันเลยทีเดียว

ต้องขอบอกก่อนนะครับว่างานนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นตากล้องมืออาชีพเพราะมือสมัครเล่นอย่างเราๆก็สามารถขายภาพถ่ายจากกล้องมือถือเป็นอาชีพเสริมได้ง่ายๆครับ เพื่อนๆคงจะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะ ว่างานนี้ต้องทำอย่างไร และรายได้จะมาจากไหน "เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลา เรามาดูขั้นตอนไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าเนอะ ว่ารูปภาพที่เราถ่ายจากกล้องมือถือสามารถทำเงินและสร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างไร

เริ่มต้นสร้างรายได้จากการขายภาพถ่ายจากกล้องมือถือ ผ่าน แอพพลิเคชั่น Clashot 
1. อย่างแรกเลย เพื่อนๆต้องมีมือถือสมาท์โฟนที่สามารถถ่ายรูปได้ ยิ่งคุณภาพของรูปภาพออกมาดีมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีคนเข้ามาซื้อก็มีมากขึ้นครับ
2. โหลดแอปพลิเคชั่น ที่มีชื่อว่า Clashot (สามารถโหลดได้ทาง apps store และ play store) จากนั้นก็ทำการติดตั้งไปที่มือถือของเพื่อนๆครับ
3. กรอกข้อมูลเพื่อสมัคร หรือล็อคอินผ่านบัญชี Facebook หรือ Google+ ก็ได้ครับ
4. ขั้นตอนสุดท้าย ก็คือการ Upload ภาพถ่ายจากกล้องของเราสู่ Clashot ซึ่งทาง Closhot ก็จะเป็นตัวกลางในการซื้อขายภาพถ่าย พูดง่ายๆก็คือเป็นตัวกลางที่ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกันนั่นเอง

Clashot คืออะไร? ลักษณะเป็นอย่างไร? ใช้งานยากไหม?
Clashot ก็คือแอพพลิเคชั่นทางมือถือ ที่มีลักษณะเป็น Social network ผสมกับ microstock หลักการทำงานของ Clashot คล้ายๆกับ instagram (อินสตาร์แกรม) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถอัพโหลดภาพถ่ายของตนเองขึ้นไปสู่โลกโซเซียล
Clashot ต่างกับ Social Network เจ้าอื่นๆตรงที่ว่า รูปภาพที่เรา upload ขึ้นไปสามารถขายให้กับผู้ที่สนใจได้ และที่สำคัญ ภาพๆเดียวสามารถขายและทำเงินให้กับเจ้าของภาพได้หลายครั้งด้วย
ส่วนวิธีการใช้งาน ผู้ที่เคยใช้งานแอพพลิเคชั่น Instagram, Facebook, Line, Google+ มาก่อน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเข้าใช้งานแต่อย่างใด เพราะ Clashot มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เข้าใจง่าย

กฎเหล็กของ Clashot
สำหรับผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมจากการขายภาพถ่ายกับ Clashot สิ่งต้องห้ามก็มีดังนี้
ห้าม COPY ภาพถ่ายของคนอื่นโดยเด็ดขาด และจะต้องใช้ภาพที่ถ่ายด้วยตัวเองเท่านั้น
- ภาพที่มีการซื้อขายจะเป็นลักษณะ Editorial (เป็นภาพข่าว) ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์
- และ กฎอื่นๆอีกรวมไปถึงข้อยกเว้นอีกหลายข้อ ลองไปศึกษาดูกันนะครับ

ภาพแบบไหนที่ขายได้ 
จากการที่นายอาชีพได้เข้าร่วมกลุ่ม Clashot Thailand ซึ่งเป็นกลุ่มเปิดที่อยู่ในFacebook กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่รวมคนเล่น Clashot ในประเทศไทย ถือว่าเป็นชุมชนที่อบอุ่นมากเลยทีเดียว เพราะเป็นศูนย์รวมที่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันเทคนิคและวิธีการต่างๆร่วมกัน จากการที่เห็นเพื่อนๆพูดคุยกันในกลุ่มเกี่ยวกับภาพที่ขายได้และผู้ซื้อนิยมซื้อกัน อย่างแรกเลยรูปภาพที่สามารถทำเงินให้กับเจ้าของภาพได้นั้น โดยส่วนใหญ่ไฟล์รูปภาพจะต้องมีคุณภาพที่ดีมีความละเอียดสูง ไฟล์รูปภาพที่มีขนาดใหญ่จะขายง่ายกว่า เพราะผู้ซื้อสามารถนำไปใช้งานได้หลายรูปแบบ เช่นนำภาพไปประกอบเว็บไซต์ นำไปทำโปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆอีกมากมาย ที่ไม่ใช่ในเชิงพาณิชย์

ตัวอย่างรูปที่ใช้ขายในแอป

รูปวิวทิวทัศน์ หมู หมา กา ไก่ ขายได้ไหม?
"ภาพทุกภาพที่เราถ่ายเองสามารถลงขายได้หมดครับ" ไม่ว่าจะเป็นภาพวัฒนธรรม ประเพณี วัดวาอาราม วิวทิวทัศน์ สัตว์เลี้ยง อาหาร ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่ภาพของผู้คนที่เดินอยู่ตามท้องถนน สามารถขายได้หมดครับ แต่ก็มีข้อห้ามอยู่นะ เช่น ภาพลามก อนาจาร สิ่งยั่วยุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งต่อสังคม ภาพพวกนี้ไม่ควรเอาลงขายนะครับ

ใครคือผู้ซื้อ
ผู้ซื้อภาพที่เข้ามาใน Clashot โดยส่วนใหญ่ ก็จะมีหลากหลายอาชีพครับ เช่น Blogger (แบบผู้เขียนนี่แหละ) หรือ Webmaster ที่ดูแลเว็บไซต์ และคนทำสื่อต่างๆ แผ่นพับ ใบปลิว หนังสือ และอีกมากมาย




วิธีการรับเงิน
ทาง Clashot จะขายไฟล์รูปภาพของเราให้กับผู้ซื้อในราคา 0.99 ดอลล่า (ประมาณ 30 กว่าบาทไทย) และจะแบ่งรายได้ให้กับเจ้าของไฟล์ภาพในราคา 0.44 ดอลล่า ต่อการซื้อขายหรือการดาวน์โหลดหนึ่งครั้ง  และถ้ามี expert มา like รูปภาพของเรา เราก็จะได้อีก 0.10 ดอลล่า

การเบิกถอนเงิน เราสามารถแจ้งเบิกถอนเงินกับทาง Clashot ได้ตลอดเวลา แต่เราจะต้องมียอดขายเกิน 3ดอลล่า (ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ) ส่วนช่องทางการโอนเงิน ทาง Clashot ก็จะส่งเงินมาให้เราทางบัญชี Paypal ของเราครับ (ถ้าไม่มีบัญชี Paypal ก็เปิดซะนะครับ)

*ตัวอย่างรายได้ของสมาชิกที่ทำเงินจาก clashot 

ภาพนี้เป็นภาพรายได้ของคุณ chayathon หนึ่งในสมาชิก Clashot Thailand จะเห็นได้ว่าคุณ chayathon ณ ตอนนี้มียอดเงิน 49.42ดอลล่า ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,500 บาท

(ทางผู้เขียนต้องขออนุญาตนำภาพรายได้ของพี่ chayathon มาประกอบบทความนี้นะครับ เพื่อเป็นตัวอย่างและกำลังใจให้กับมือใหม่ทุกๆคนครับ)


ช่องทางทำเงินในการหารายได้เสริมจากงานออนไลน์ยังมีอีกมากมายเลยครับ นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เอาไว้คราวหน้านายอาชีพจะหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำเงินมาแชร์ให้กับเพื่อนๆอีกนะครับ รับรองว่าแนวทางต่างๆที่นำมาเสนอ เพื่อนๆสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้อย่างแน่นอนครับ




ผู้เขียน: นายอาชีพ

"ขายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ " อีกหนึ่งธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจ พร้อมแนวคิดดีๆ ก่อนที่จะลงทุน

ขายพันธุ์ไม้ ธุรกิจที่น่าสนใจ
ช่องทางทำเงินวันนี้นายอาชีพจะมาแนะนำอีกหนึ่งธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่รักธรรมชาติและการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง นายอาชีพหวังว่าบทความนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหาอาชีพเสริม อาชีพอิสระกันอยู่นะครับ

"เพื่อนๆเคยสังเกตุกันบ้างไหม" เวลาเราเดินทางผ่านไปในเส้นทางต่างๆ บางครั้งเราจะพบเห็นรถยนต์จอดอยู่ริมถนนสองข้างทางโดยเฉพาะหน้าร้านขายต้นไม้ ดอกไม้และของตกแต่งสวน  นายอาชีพจึงอดคิดไม่ได้ว่าทุกวันนี้ ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการตกแต่งสวนหย่อมและพยายามขยายพื้นที่สีเขียวกันมากขึ้นหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสวนด้วยไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัว พืชมงคล ไม้ใหญ่หรือไม้ยืนต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังเป็นกระแสนิยมในสังคมเมืองกันอย่างมากเลยทีเดียว

จากการสังเกตุ แม้แต่ที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัดอย่างคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ ก็เริ่มมีการตกแต่งสวนหย่อมแบบน่ารักๆไว้ชื่นชมกัน ยิ่งถ้ามีบริเวณหรือพื้นที่เยอะหน่อย ก็คงได้เพลิดเพลินกับการตกแต่งจนลืมเวลากันไปเลยทีเดียว

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะมี ธุรกิจขายต้นไม้ ดอกไม้ และพันธุ์ไม้ต่างๆเกิดขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการให้กับคนที่รักธรรมชาติและรักการเกษตรอย่างเป็นชีวิตจิตใจ


"มาเข้าเรื่องการทำธุรกิจ" สำหรับเพื่อนๆที่กำลังคิดอยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจลงทุนเปิดร้านขายต้นไม้ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหน? เริ่มต้นยังไง?  "อย่างแรกเลย นายอาชีพขอแนะนำ" ก่อนอื่นท่านต้องมีใจรักและความสนใจในงานชนิดนี้อยู่พอสมควร ต่อมาก็คือความพร้อมที่จะลงมือทำและควรเริ่มศึกษาหาข้อมูลของธุรกิจที่จะทำอย่างจริงจัง ที่สำคัญอย่าลืมสำรวจตลาดด้วยว่าแต่ละช่วงเวลาผู้คนต้องการสินค้าชนิดใด ประเภทใด  "ถึงตอนนี้" นายอาชีพก็มีแนวทางเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนลงทุนมาให้เพื่อนๆที่สนใจในธุรกิจนี้ได้เก็บไว้เป็นข้อมูลอีกเช่นเคยครับ

แนวทาง สำหรับมือใหม่ กับการเริ่มต้นเปิดร้านขายต้นไม้เป็นอาชีพเสริม สู่อาชีพที่ทำเงิน
ขั้นตอนในการเตรียมตัวก่อนลงทุน อย่างแรกเลยนะครับ ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราจะเปิดร้านขายต้นไม้แบบไหน จะผลิตแล้วขายเอง หรือ รับมาจากผู้ผลิตแล้วนำมาขายต่ออีกทอดนึง แต่เหนือสิ่งอื่นใดในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ผู้ลงทุนทุกคนจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูล พันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึงประโยชน์ของพันธุ์ไม้ต่างๆ และควรศึกษาวิธีการ ปักชำ ตอนกิ่งไว้บ้าง เพราะความรู้ที่ศึกษาสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงไงครับ

เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆก่อน เริ่มจากหาพันธุ์ไม้ กล้าไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัว แล้วค่อยขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เพื่อนๆเคยได้ยินวลีนี้ไหมครับ "กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว" วลีนี้นำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ครับ นายอาชีพเแนะนำให้เริ่มต้นจากความพอดีและพอเพียงค่อยๆเป็นค่อยๆไปเปรียบเสมือนเหมือนการเริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์เพียงไม่กี่เมล็ดจากนั้นก็ค่อยๆแตกหน่อและเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่และแข็งแรงในที่สุด

ถึงวันหนึ่ง ถ้าร้านของเราเริ่มเติบโตและมีลูกค้าเยอะขึ้น ถึงตอนนั้นเราก็ค่อยๆขยายธุรกิจโดยเริ่มทำให้ครบวงจรก็ไม่สายเกินไปครับ โดยเราอาจจะเพิ่มช่องทางรายได้ต่างๆ เช่น ขายเมล็ดพันธุ์ อุปกรณ์ตกแต่งสวน หรืออุปกรณ์ทางการเกษตร หรือจะรับจัดและตกแต่งสวนควบคู่ไปด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะจะทำให้ร้านขายต้นไม้ของเราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น หรือจะเปิดร้านขายกาแฟสดควบคู่ไปด้วยก็ไม่ว่ากัน เป็นการสร้างบรรยากาศให้พื้นที่ดูมีสีสันมากขึ้นอีกด้วย

อีกหนึ่งช่องทางการทำเงินจากธุรกิจขายต้นไม้ ก็คือการบริการให้เช่าต้นไม้ โดยให้เช่าทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มรายได้ให้กับทางร้านของเรา เพราะลูกค้าบางคน บางกลุ่ม หรือบางหน่วยงาน มักจะมีการจัดงาน จัดอีเว้นท์ หรือจัดงานพิธีที่ต้องใช้ไม้ประดับเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการให้เช่าต้นไม้จึงเป็นรายได้เสริมที่ทำเงินให้กับร้านขายต้นไม้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดร้านขายต้นไม้ ทั้งร้านขายปลีกและขายส่ง

ร้านขายส่ง(ผู้ผลิต) คุณต้องมีความรู้ มีเงินทุน มีพื้นที่ มีเรือนเพาะชำ มีดินร่วนปนเหนียว มีแกลบ ปุุ๋ยและสารอาหารต่างๆของดิน มีถุงดำ มีเมล็ดมาเพาะ มีพันธุ์ไม้/กล้าไม้ มีการดูแลรักษา มีรถในการจัดส่งสินค้า เช่นรถบรรทุก และการหาตลาดโดยการนำรายการสินค้าที่เรามีไปเสนอขายร้านขายต้นไม้(ขายปลีก)หลายๆแห่ง หรือถ้าอยู่ในทำเลที่ดี ก็ทำหน้าร้านไปด้วยเลย

ร้านค้าปลีก คุณต้องมีความรู้ มีเงินทุน มีทำเลที่ดี มีหน้าร้าน มีพื้นที่วางและจัดสินค้า(ต้นไม้) มีการดูแลรักษาสินค้า มีรถขนส่งสินค้าให้ลูกค้า(กรณีที่ร้านใหญ่) และสุดท้ายการบริหารการจัดการที่ดี คน เงิน งาน และวัสดุอุปกรณ์

ช่องทางทำเงินกับธุรกิจบนเส้นทางสายเกษตรที่นายอาชีพนำมาเสนอให้เพื่อนๆได้อ่านนี้ ก็เป็นเพียงแนวคิดเล็กๆเพื่อที่จะให้ผู้อ่านได้เห็นภาพก่อนการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้มากที่สุด ที่สำคัญการทำสิ่งใดด้วยใจรักและมีความสุขกับงานที่ทำ ในที่สุดผลลัพธ์ก็จะออกมาดี สุดท้ายนายอาชีพเชื่อว่าธุรกิจของเราก็จะประสบความสำเร็จ เงินทองก็จะไหลมาเทมาอย่างแน่นอนครับ ^^

ข้อคิดธุรกิจ
- สำรวจความต้องการของตลาด ว่าผู้คนต้องการอะไร และอะไรเป็นที่นิยมในแต่ละช่วงเวลา
- มีทำเลในการขายที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เขียนโดย: นายอาชีพ

มาสร้างรายได้จากการอัพโหลดวีดีโอลง Youtube กันเถอะ

สร้างรายได้จาก Youtueb
สวัสดีครับเพื่อนๆที่รักทุกท่าน วันนี้นายอาชีพก็จะมาชี้ช่องทาง การสร้างรายได้เสริม ให้กับเพื่อนๆอีกเช่นเคยครับ หวังว่าบทความนี้คงจะถูกใจผู้ที่ชื่นชอบท่องโลกอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ชอบดูคลิปวีดีโอหรือผู้ที่ชอบอัพโหลดคลิปวีดีโอต่างๆของตน ลงไปในเว็บไซต์ Youtube 

เอาล่ะ! มาถึงตอนนี้ เพื่อนๆคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเว็บไซต์ Youtube กันใช่ไหมครับ? เพราะเรื่องราวที่นายอาชีพจะนำมาแชร์ในวันนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยเลยก็ว่าได้ครับ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ YouTube ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ >> www.youtube.co.th พูดง่ายๆก็คือเป็นเวอร์ชั่นของประเทศไทยนั่นเอง

ประสบการณ์ใหม่ที่เพื่อนๆจะได้ท่องเว็บยูทูป อย่างแรกเลยนะครับ เพื่อนๆสามารถค้นพบเนื้อหาภาษาไทยได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว ประเด็นสำคัญที่จะมาบอกเล่าในบทความนี้ก็คือ เจ้าของคลิปวีดีโอหรือเจ้าของคอนเทนต์ที่เป็นคนไทย สามารถสร้างรายได้จากวิดีโอคลิปที่ได้อัพโหลดลงไปใน YouTube ได้อีกด้วย จากเดิมที่แต่ก่อนนี้ไม่สามารถสร้างรายได้ได้ แต่ตอนนี้ทาง Youtube ได้เปิดโอกาสให้คนไทยได้สร้างรายได้จากการเป็นพันธมิตรร่วมกันแล้วครับ

ขั้นตอนคร่าวๆในการสร้างรายกับ Youtube
  • เปิดบัญชี Gmail จากนั้นก็สมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ Youtube ประเทศไทย
  • อัพโหลดคลิปวีดีโอที่เราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ (ห้าม COPY วีดีโอผู้อื่น ห้ามนำภาพและเสียงที่มีลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช่ของตนมาอัพโหลดลงใน youtube ฝ่าฝืนโดนลบบัญชีหรืออาจถูกฟ้องร้องได้)
  • หลังจากนั้นเราก็เปิดการสร้างรายได้กับ Youtube เมื่อสมัครผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Youtube ก็จะส่งเมลมาแสดงความยินดี Congratulation ได้สมัครผ่านเป็นที่เรียบร้อยและเป็นพันธมิตรร่วมกันกับ Youtube
  • ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การสมัครเพื่อเชื่อมบัญชีกับ adsense  และก็รอการอนุมัติ อีกครั้ง
รายได้จาก Youtube จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
นายอาชีพขอตอบเลยว่ามาจากโฆษณาครับ ยิ่งมีคนเข้าชมวีดีโอของเราเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งสร้างโอกาสที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเราครับ มีคนไทยอยู่หลายคนที่หารายได้จากการสร้างวีดีโอเป็นอาชีพเสริม แต่ชาวต่างชาติหลายๆประเทศเขาทำเป็นธุรกิจกันเลยนะครับ โดยการตั้งกลุ่มขึ้นมาถ่ายทำวีดีโอและสร้างเนื้อหาดีๆและน่าสนใจ เช่น คลิปการผจญภัยท่องเที่ยว คลิปตลกต่างๆ พอมีคนเข้ามาชมกัน ก็เกิดการแชร์และส่งต่อ ส่วนรายได้ก็จะเกิดจากส่วนแบ่งของค่าโฆษณาที่มาแสดงในวีดีโอของผู้สร้างที่ร่วมเป็นพันธมิตรครับ ถือว่าเป็นธุรกิจที่ทำเงินอย่างมากเลยทีเดียวเลยใช่ไหมครับ

วิธีในการเริ่มต้นสร้างรายได้กับ Youtube
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจหารายได้เสริมจาก Youtube สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก็มีดังนี้ กล้องวีดีโอ หรือจะให้ง่ายที่สุด เราก็ใช้มือถือของเรานี่แหละครับ ไปไหนมาไหนเดินทางเมื่อไหร่ ถ้าเห็นอะไรน่าสนใจก็หยิบขึ้นมาถ่าย หรือจะถ่ายความน่ารักของลูกหลาน หมาแมวในบ้านก็ไม่มีใครว่า ยกตัวอย่าง คลิปวีดีโอ ฮาร์ดคอร์ ก ไก่ ที่โด่งดัง เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กลูกครึ่งที่กำลังหัดท่อง ก-ฮ ได้อย่างน่ารักน่าชัง เชื่อหรือไม่ครับ ว่าตอนนี้มีคนเข้าชมคลิปนี้มากกว่า 9 ล้านคนแล้ว ลองคิดดูนะครับว่ารายได้จะมากขนาดไหน เห็นไหมละครับการสร้างวีดีโอที่มีเนื้อหาแปลกใหม่และไม่ซ้ำใครเมื่อนำมาอัพโหลดลงใน Youtube ก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ง่ายๆ และไม่แน่อาจจะกลายเป็นอาชีพที่ทำเงินก็ได้นะครับถ้าคลิปวีดีโอของเพื่อนๆเกิดโด่งดังขึ้นมา

แล้วพบกันใหม่กับผมนายอาชีพ ที่Blog ช่องทางทำเงิน บนพื้นที่เล็กๆแต่ความคิดไม่เล็กที่จะมาอัพเดตบทความอาชีพสุดฮิตและธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจ ผมขอให้เพื่อนๆร่ำรวย เจองานที่ใช่ เจออาชีพที่ชอบนะครับ...สวัสดี

เรื่องที่เกี่ยวข้อง > ทำคลิปอะไรดี? สร้างคลิปอะไรดี? ให้เป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ (Youtube)

นักเขียน: นายอาชีพ

วิธีการขาย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นอาชีพเสริม รวมเคล็ดลับการทำกำไรและเรียกลูกค้า

การดำเนินชีวิตของคนไทยในยุคนี้ ไม่ว่าอะไรก็ดูเร่งรีบไปเสียหมด โดยเฉพาะเรื่องของการรับประทานอาหารเช้าก็ต้องเร่งรีบเช่นกัน ยิ่งกับคนทำงานที่ต้องแข่งกับเวลาละก็ไม่ต้องพูดถึง อาหารเช้าของคนทำงานจึงจำเป็นต้อง สะดวก รวดเร็ว และอิ่มท้อง "แล้วอะไรล่ะ?"  ที่ง่าย สะอาด สะดวก รวดเร็ว และอิ่มท้อง คำตอบก็คือ"ข้าวเหนียวหมูปิ้ง" 

ช่องทางทำเงินในวันนี้นายอาชีพจึงหยิบยกธุรกิจทำเงินอีกหนึ่งอาชีพที่ทำเงินว่าด้วยเรื่องการขายข้าวเหนียวหมูปิ้งมาวิเคราะห์ สาเหตุที่การขายหมูปิ้งยังเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินให้กับผู้ขายอยู่ ก็มีไม่กี่เหตุผลครับ อย่างที่กล่าวไว้ วัฒนธรรมการกินดื่มของคนไทยโดยปกตินั่นกินง่ายอยู่ง่าย สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาและมีชีวิตที่เร่งรีบ ข้าวเหนียวหมูปิ้งจึงตอบโจทย์และครองแชมป์อาหารเช้าแบบเร่งด่วนได้ดีที่สุดครับ

พัฒนาการของข้าวเหนียวหมูปิ้งเสียบไม้
ทุกวันนี้ก้าวไกลไปมากครับ สูตรต่างๆได้เกิดขึ้นมากมาย เช่น หมูปิ้งนมสด หมูปิ้งพริกไทยดำ หมูปิ้งสมุนไพร และอีกมากมายที่เราเห็นตามท้องถนน การทำหมูปิ้งเป็นศิลปะอย่างหนึ่งซึ่งไม่ได้เอาแค่เนื้อหมูมาหั่นบางๆแล้วเสียบไม้ขายแบบลวกๆ คุณภาพและความแตกต่างคือจุดแข็งของการขายครับ ยิ่งผู้ขายสร้างความแตกต่างมากเท่าไหร่ ผู้บริโภคก็ต้องอยากลิ้มลองเป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหมูปิ้งที่ทำขายอีกด้วย

ลองนึกภาพตามครับ มีร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่ 2 ร้านอยู่ติดกัน รสชาติเหมือนกัน ราคาเท่ากัน
ร้านแรก ธรรมดามากๆไม่มีป้ายไม่มีอะไรเลย ขายไปวันๆ
ร้านที่สอง เจ้าของยิ้มแย้มแจ่มใส่ ติดป้ายร้าน สร้าง story และเรื่องราวให้หมูปิ้ง เช่น หมูปิ้งเจ้าเก่าจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา อร่อย สะอาด ราคากันเอง
ขอถามคุณผู้อ่านว่าร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง 2 ร้านนี้ ร้านไหนน่าเข้าไปอุดหนุนครับ

วิธีการขายหมูปิ้งให้ได้กำไร รวมถึง สูตรการทำหมูปิ้ง
จริงแล้วสูตรการทำหมูปิ้งก็ไม่ได้มีอะไรมากมายครับ อยู่ที่การพลิกแพลงนิดๆหน่อยๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือการเลือกวัตถุดิบหรือการเลือกใช้ส่วนไหนของตัวหมู โดยส่วนใหญ่ผู้ขายมักจะเลือกส่วนที่เรียกว่า สันคอหมู หรืออาจจะเลือก สันขาหลัง และติดมันเล็กน้อย  การเลือกส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆครับ เพราะรสชาติย่อมแตกต่างกัน

เมื่อได้เลือกสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือสูตรที่ใช้ในการหมัก
สูตรและส่วนผสมทั่วๆไปที่ใช้ในการหมักหมูปิ้ง ก็มีดังนี้ น้ำตาลทราย เกลือป่น ซอส ซีอิ้วดำ น้ำมันหอย พริกไทย รากผักชี เครื่องเทศ น้ำมันพืช นมสด หรือ นมข้มจืด อื่นๆ นำมาผสมแล้วหมักให้เข้ากัน ส่วนใครอยากจะเพิ่มเติมอะไรลงไปก็แล้แต่สูตรของแต่ละคน เช่น สมุนไพร เป็นต้น

คราวนี้ มาพูดถึงข้าวเหนียวกันบ้างครับ ข้าวเหนียวถือเป็นองค์ประกอบสำคัญเลยทีเดียว อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะ เพราะหมูปิ้งร้อนๆ แน่นอนว่าก็ต้องคู่ควรกับข้าวเหนียวร้อนๆนุ่มๆด้วยเช่นกัน คงไม่มีลูกค้าคนไหนชอบกินข้าวเหนียว แข็งๆ เย็นๆ เชื่อผมเถอะ

การตั้งราคาหมูปิ้ง 
การตั้งราคาต้องให้สมเหตุสมผลครับ หักลบกลบต้นทุนทุกอย่างแล้วก็ควรให้พออยู่ได้ก่อนในช่วงแรกๆ พอติดตลาดแล้วลูกค้าถูกใจแล้วบอกต่อ ต่อไปก็ขายไม่ทันเองแหละครับ ขอให้จำหลักง่ายๆว่า ลูกค้าชอบ ประหยัด สะอาด อร่อย และมีคุณภาพ อย่าลืมว่าคนไทยชอบของถูกและดีมีประโยชน์ครับ (แม้แต่ตัวนายอาชีพเอง ก็ชอบครับ ของถูกและดี อิอิ)

ทำเลที่ตั้งในการขายหมูปิ้งก็สำคัญนะ
การตั้งร้าน ควรหาที่ตั้งที่มีคนพลุกพล่าน หรือมีผู้คนพอสมควร เช่น แถวๆ โรงเรียน บริษัท โรงงาน คิวรถ หมู่บ้าน ปั้มน้ำมัน ตลาดสด  ทำเลทองที่กล่าวมานี้ จะช่วยทำให้ธุรกิจร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งของท่านนั้นไปได้ดีและขายหมดในพริบตา เพราะควันและกลิ่นของหมูปิ้งจะเป็นตัวเชิญชวนลูกค้าให้แวะเวียนมาเอง ไม่ต้องไปจ้างโฆษณาที่ไหนครับ

ช่วงเวลาในการขายหมูปิ้ง
นายอาชีพแนะนำให้ขายในช่วงเช้า หรือช่วงเย็นนะครับ หรือถ้าขายดีจริงๆก็เหมาสองรอบเลยก็ไม่ว่า ไม่แนะนำให้ขายในช่วงกลางวันนะครับ เพราะช่วงกลางวันคนส่วนใหญ่มักจะเลือกรับประทานกันครับ น้อยมากที่จะมีข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นตัวเลือกของอาหารกลางวันครับ

สรุปอาชีพเสริมการทำหมูปิ้ง
ธุรกิจการทำข้าวเหนียวหมูปิ้งยังเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานครับ สำหรับผู้ที่ต้องการทำเป็นอาชีพอิสระก็ควรที่จะศึกษาสูตรต่างๆและนำมาประยุกต์หรือดัดแปลงให้แตกต่างครับ และการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ที่สำคัญก็เรื่องของทำเลครับ นายอาชีพรับรองว่าธุรกิจร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งจะสร้างรายได้และทำกำไรให้กับท่านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ

สร้างสติ๊กเกอร์ (Line)เพื่อขาย อาชีพเสริมทำเงินที่มาแรง

วิธีทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย
ช่องทางทำเงินในวันนี้นายอาชีพมีข่าวดีสำหรับผู้ต้องการหารายได้เสริมมาให้ได้เฮกันครับ
เมื่อ Line (ไลน์) แอพพลิเคชั่นสุดฮอตที่มีผู้ใช้กันทั่วโลก ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้สร้างสติ๊กเกอร์และส่งผลงานของตัวเองมาวางขายใน Shop ของไลน์

โดยทางไลน์ไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมในการมาวางขายแต่อย่างใด จากเมื่อก่อนถ้าต้องการส่งสติ๊กเกอร์มาขาย จะต้องใช้เงินถึง 6-7หลักเลยทีเดียว แต่วันนี้มีเพียงเงื่อนไขว่า ทางไลน์จะเป็นผู้กำหนดราคาสติ๊กเกอร์ไว้ที่ประมาณ 100 เยน หรือประมาณ 30 บาท และเมื่อมีการดาวน์โหลดหรือมีการซื้อขายเกิดขึ้น ทางไลน์จะหักส่วนแบ่ง 50เปอร์เซ็น

สำหรับผู้ที่สนใจหาอาชีพเสริม ข่าวที่ไลน์ประกาศออกมาในครั้งนี้ ถือเป็นธุรกิจที่จะทำเงินให้กับนักสร้างสรรค์อย่างมากทีเดียวครับ เนื่องจากผู้คนที่ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในขณะนี้ มีผู้ใช้งานหลายล้านคนจากทั่วโลกและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ลองคิดดูนะครับถ้าสติ๊กเกอร์ที่คุณสร้างเกิดติดตาและต้องใจสาวกไลน์เข้า แน่นอนยอดดาวน์โหลดก็จะตามมาอย่างต่อเนื่อง ลองสมมุติดูว่า มีคนหนึ่งแสนคนในประเทศไทยเข้ามาดาวน์โหลด โดยไม่ต้องถึงกับมีผู้คนจากทั่วโลกมาดาวน์โหลดหรอก ขอแค่หนึ่งแสนคนเท่านั้น ผมรับรองว่าเงินล้านอยู่ไม่ไกลเพื่อนๆอย่างแน่นอนครับ

งานนี้จึงถือว่าเป็นข่าวดีจริงๆครับ นายอาชีพเลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆศึกษารายละเอียดดูครับ ที่ Line Creators Market โดยทางไลน์ได้ให้รายละเอียดต่างๆรวมถึงบอกวิธีการสร้างสติ๊กเกอร์และวางขายครับ
การสร้างสติ๊กเกอร์เพื่อขายในไลน์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางของอาชีพครับ ไม่แน่นะครับจากอาชีพเสริมที่ทำเล่นๆ อาจจะกลายเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับเราอย่างมหาศาลโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้

ผู้เรียบเรียง: นายอาชีพ

สร้างแอพพลิเคชั่นบนมือถือขาย ธุรกิจทำเงินที่สร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

รวยด้วยการสร้างแอปพิเคชั่นขาย
ในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวที่พูดถึง ชายชาวเวียดนามคนหนึ่ง ที่สามารถสร้างรายได้ ถึงวันละ 50,000 ดอลลาร์ จากแอพพลิเคชั่น(เกมส์) ด้วยยอดดาวน์โหลดที่มากกว่า 50 ล้านครั้ง ทำให้เขากลายเป็นคนที่ร่ำรวยคนนึงเพียงชั่วข้ามคืน โดยรายได้ที่ว่านั้นมาจากโฆษณาออนไลน์ที่ปรากฎบนแอปพลิเคชั่นของเขา จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ช่องทางทำเงินกับเทคโนโลยีกำลังเป็นที่นิยมเลยทีเดียว หลายๆคนเริ่มหาความรู้เพื่อที่จะสร้างแอพพลิเคชั่นเพื่อหวังว่าจะเป็นนวัตกรรมเพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้ามาดาวน์โหลด ยิ่งมียอดดาวน์โหลดมากเพียงใด นั่นก็เท่ากับว่าผู้สร้างแอพก็จะมีรายได้เข้ากระเป๋ามากเท่านั้น ช่องทางการขายแอพพลิเคชั่นหลักๆผู้สร้างก็จะนำไปขายหรือปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรีที่ Play Store และ APP Store ดังนั้นตลาดแอพพลิเคชั่นบนมือถือ นายอาชีพมองว่ายังไปได้อีกไกลเพราะจะมีผู้ใช้ระบบ Android และ IOS เพิ่มขึ้นทุกๆวันอย่างต่อเนื่อง

แนวทางการสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อสร้างรายได้
โดยพื้นฐานการสร้างแอปหลักๆผู้สร้างต้องมีสิ่งเหล่านี้
- ต้องมีความรู้
- ต้องมีแรงบันดาลใจ
- ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- ต้องสร้างสิ่งที่ตอบสนองต่อความต้องการของชีวิตประจำวันของผู้คนให้ได้
- ต้องเอาความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้ง เช่น อำนวยความสะดวก หรือ ความบันเทิง

ช่องทางการอบรมและเรียนการสร้างแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
สำหรับผู้ไม่มีความรู้พื้นฐานมาก่อน ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ครับ เพราะทุกวันนี้มีคอร์สฝึกอบรม สอนการเขียนแอปในระบบ Android และ IOS ให้กับผู้เริ่มต้น ส่วนผู้ที่มีความรู้ในระดับหนึ่งแล้วนั้น ก็สามารถเลือกเรียนหลักสูตรระดับสูงที่เหมาะกับตนเองเพื่อพัฒนาและต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นไปอีกก็ไม่ว่ากันครับ
(หลักสูตรอบรมการเขียน Apps สามารถค้นดูที่ Google)

ตลาดการขายแอปพลิเคชั่นบนมือถือและสมาร์ทโฟน นายอาชีพยืนยันว่าเป็นธุรกิจที่ทำเงินอย่างแน่นอนครับเพราะการแข่งขันถือว่ายังน้อยอยู่ถ้าเทียบกับสัดส่วนของผู้ใช้งาน สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่ ลองเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีดูบ้างครับ ไม่แน่นะครับสักวันเราอาจจะเป็นคนที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆจนชื่อเสียงโด่งดังโดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้ และที่สำคัญ Apps ที่เราสร้างขึ้นมาไว้บน Play Store และ APP Storeนั้น ตราบใดที่ยังมีผู้คนเข้าไปดาวน์โหลดและใช้งานอยู่ทุกวัน Applicationนั้นก็จะเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ทำเงินและสร้างรายได้ให้กับเราอยู่ตลอดเวลาครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ

เพาะถั่วงอกคอนโดเพื่อขาย อาชีพทำเงินของคนที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด

เพาะถั่วงอกขาย อาชีพเสริมสร้างรายได้ดี
หากถามว่า ผักอะไรเอ่ย? ที่ใช้เวลาในเวลาการเพาะปลูกน้อยที่สุด หลายๆคนคงตอบได้อย่างทันทีเลยว่า"ถั่วงอก" วันนี้เหมียววดีจะมาแนะนำอาชีพเสริมจากการเกษตรแบบง่ายๆที่สร้างรายได้ให้กับเราอย่างไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นก็คือ "การเพาะถั่วงอกขาย"

ถั่วงอกเกิดจากการเพาะเมล็ดถั่ว ซึ่งสามารถเพาะได้จากถั่วหลายชนิด แต่เมล็ดถั่วเขียวจะเป็นที่นิยมที่สุด ถั่วงอกถือว่าเป็นผักที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงทั้งโปรตีนและเกลือแร่ เวลาที่ใช้ในการเพาะถั่วงอกนั้นก็แสนสั้นใช้เวลาเพียง 3-4 วัน และที่สำคัญถั่วงอกเป็นผักที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง เพราะในการปรุงอาหารทั้งไทย จีน อาหารพื้นบ้าน อาหารเจและมังสวิรัต ก็ยังใช้ถั่วงอกเป็นส่วนประกอบหรือเป็นเครื่องเคียง

การเพาะถั่วงอกเพื่อขายนั้น จึงถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจและยังคงมาแรงถึงยุคปัจจุบันเลยทีเดียว เหมียววดีจึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้ถึงวิธีทำเงินจากการเพาะถั่วงอกเพื่อขายไว้เป็นทางเลือกของอาชีพเสริมกันค่ะ


วิธีการเพาะถั่วงอกเพื่อขาย
การเพราะถั่วงอก มีหลากหลายวิธี เช่น เพาะในทราย เพาะในขวดน้ำ หรือเพาะในหม้อดิน และอีกหลายวิธี แต่วันนี้ เหมียววดี มีวิธีการเพาะถั่วงอกเพื่อขาย ที่เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่จะได้ปริมาณถั่วงอกที่มาก ด้วยวิธีการง่ายๆเหมาะผู้เริ่มต้นกับการเกษตรเชิงสร้างสรรค์ นั่นก็คือ "การเพาะถั่วงอกคอนโด" เราไปดูกันเลยค่ะว่ามีอุปกรณ์อะไรและมีวิธีการเพาะถั่วงอกคอนโดอย่างไร

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเพาะถั่วงอกคอนโด
1. ถังขนาด 30 ลิตร มีฝาปิดและทึบแสง นำมาเจาะรูที่ก้นถังให้ทั่วเพื่อระบายน้ำที่รดถั่วงอก
2. ผ้ากระสอบ ตัดเป็นวงกลมเท่ากับขนาดก้นถัง จำนวน 7 ผืน
3. ตะแกรงปิ้งปลา ให้นำมาดัดขาให้สูง 1 นิ้ว จะใช้วางที่ก้นถัง เพื่อให้ถั่วงอกคอนโดชั้นแรกหยั่งรากได้
4. ตะแกรงไนล่อน หรือตาข่ายพลาสติก ต้องมีรูเล็กกว่าเมล็ดถั่ว นำมาตัดเป็นวงกลมให้เท่ากับขนาดก้นถัง จำนวน 5 ใบ
5. เมล็ดถั่วเขียว ครึ่งกิโลกรัม นำมาคัดเมล็ดลีบเสียทิ้งไป แล้วแช่เมล็ดถั่วในน้ำอุ่น อัตราส่วน น้ำร้อน:น้ำเย็น 1:1 นาน 4 ชั่วโมง ถ้าแช่ในน้ำธรรมดา นาน 8 ชั่วโมง เมื่อครบชั่วโมงให้นำมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นไปเริ่มวิธีการเพาะถั่วงอกคอนโดกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการเพราะถั่วงอกคอนโด
ก่อนอื่นเราต้องลวกอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคก่อนนะคะ จากนั้นก็เริ่มขั้นตอนการเพาะถั่วงอกคอนโดได้เลยค่ะ
1. วางตะแกรงปิ้งปลาลงที่ก้นถัง แล้ววางทับด้วยผ้ากระสอบ 1 ผืน วางตะแกรงไนล่อน 1 ใบ ทับบนผ้ากระสอบ
2. วางเมล็ดถั่วส่วนลงบนตะแกรงไนล่อน เกลี่ยให้ทั่วตะแกรง เทคนิคคืออย่าวางเมล็ดถั่วซ้อนกัน ถั่วงอกจะได้งอกสมบูรณ์และอวบน่ารับประทาน
3. ทำเช่นเดียวกันจนครบทั้ง 5 ชั้น ปิดทับถั่วเขียวชั้นบนสุดด้วยผ้ากระสอบ 2 ผืน ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม แล้วปิดฝาถัง
4. ใช้ฝักบัวรดน้ำทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ละครั้งให้สังเกตน้ำที่ระบายออกมาจากรูก้นถัง หากยังมีอุณหภูมิสูง ให้รดน้ำต่อไปจนกระทั่งน้ำมีอุณหภูมิปกติ ทำเช่นนี้ 2 คืน 3 วัน
5. เมื่อครบ 3 วัน ให้เตรียมกะละมังใส่น้ำ ยกแผงของถั่วงอกออกมาจากถัง แล้วจะเห็นว่าต้นถั่วงอกจะอยู่ด้านบนของตะแกรงไนล่อนค่ะ ส่วนรากถั่วงอกจะทะลุผ่านผ้ากระสอบ ให้ใช้มีดปาดที่โคนต้นถั่วงอกด้านที่ติดกับตะแกรงไนล่อนลงสู่กะละมัง ล้างถั่วงอกที่ตัดรากแล้วให้สะอาด ถั่วงอกก็พร้อมที่จะนำไปบรรจุถุงเพื่อเตรียมจำหน่ายต่อไป เป็นอันเสร็จขึ้นตอนการเพาะถั่วงอกคอนโดแล้วค่ะ

ช่องทางการขาย
ช่องทางทำเงินจากการขายถั่วงอกคอนโดนั้น มีทั้งในตลาดขนาดเล็ก เช่น ตลาดในหมู่บ้าน ในชุมชน หรือถ้าทำเป็นธุรกิจหลัก ก็สามารถติดต่อกับตลาดค้าส่งผักได้อีกด้วย ถั่วงอกคอนโดยังสามารถทำกลยุทธ์ทางการตลาดได้ ด้วยการบรรจุหีบห่อที่สวยงาม แล้วพิมพ์ข้างถุงได้เลยค่ะว่าเป็นถั่วงอกคอนโดปลอดสารเคมี อุปกรณ์ที่เราใช้ในการเพาะถั่วงอกครั้งแรกทั้งหมดก็สามารถใช้ซ้ำและมีอายุยาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการเก็บรักษา จึงถือว่าประหยัดต้นทุนมากค่ะ

สรุป
การเพาะถั่วงอกคอนโดนั้น ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วยค่ะ เพราะไม่ได้ใช้สารเคมีใดๆในการเพาะปลูกเลย สบายใจทั้งผู้ผลิตและผู้รับประทาน การลงทุนก็เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซื้ออุปกรณ์ในช่วงเริ่มแรก จากนั้นก็สามารถใช้อุปกรณ์เดิมในการเพาะถั่วงอกได้ในครั้งต่อๆไป ทำให้ประหยัดต้นทุนได้มากเลยค่ะ หรือจะเพราะถั่วงอกเพื่อกินเองในครอบครัว ก็ยิ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย มีเงินเหลือเก็บเหลือออมไว้ลงทุนด้านอื่นๆ ยังไงเพื่อนๆก็ลองพิจารณาการเพาะถั่วงอกคอนโดเพื่อขายเผื่อไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาชีพเสริมกันดูนะคะ


ผู้เขียน: เหมียววดี

อาชีพออกแบบเครื่องประดับ ดีไหม? ทำเงินหรือไม่?

ช่องทางทำเงินวันนี้ นายอาชีพจะมาแนะนำอาชีพที่น่าสนใจ...นั่นก็คือ "นักออกแบบเครื่องประดับ" ซึ่งอาชีพนี้นอกจากจะยึดเป็นงานประจำแล้ว ก็ยังสามารถทำเป็นอาชีพเสริม อาชีพอิสระ เป็นงานที่ทำที่บ้าน หรือที่ไหนก็ได้ แถมรายได้ดีอีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการยึดอาชีพออกแบบเครื่องประดับ สี่งสำคัญที่สุด ต้องมีใจรัก มีจิตนาการ มีแรงบันดาลใจและต้องมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยครับ บางคนไม่ชอบงานด้านการออกแบบเลย


นายอาชีพขอแนะนำว่าอย่ามาทำงานด้านนี้เลยครับเสียเวลาเปล่าๆ เพราะงานด้านการออกแบบ ต้องใช้สมาธิในการสร้างสรรค์ผลงานและต้องมีความอดทนสูงพอสมควรครับ

อยากเป็นนักออกแบบเครื่องประดับต้องทำอย่างไร?
บางคนค้นพบตัวเองเร็วครับ จึงมุ่งเรียนในหลักสูตรปริญญาตรี เช่น สาขาการออกแบบเครื่องประดับและอัญมณี   สาขาวิทยาศาสตร์ - วัสดุศาสตร์ อัญมณี และเครื่องประดับ หรือสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ก็ถือว่าดีครับเพราะพื้นฐานแน่นปึก บางคนเรียนๆอยู่ ก็มีบริษัทออกแบบเครื่องประดับมาจองตัวถึงที่ก็มีถมไปครับ

แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนจบทางด้านการออกแบบเครื่องประดับมาโดยตรง ก็ไม่ต้องเสียใจครับ ทุกวันนี้มีสถานที่เรียนฝึกอาชีพมากมายทั้งภาครัฐและเอกชนที่เปิดสอนวิชาชีพด้านนี้ เนื้อหาสาระ เค้าก็จะสอนให้นำวัสดุต่างๆ มาใช้ในการออกแบบ เช่น อัญมณี คริสตัล ไม้ ผ้า กะลา ดินเผา ลูกปัด โลหะ อโลหะสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้น รวมไปถึงการใช้เครื่องไม้เครื่องมือและวิธีการออกแบบครับ

ช่องทางรายได้
จะเห็นได้ว่ารายได้จากการยึดอาชีพนี้ก็มีหลายทางครับ เช่น 
เป็นพนักงานบริษัท ยึดเป็นงานประจำกินเงินเดือน หรือทำเป็นธุรกิจส่วนตัว ทำเป็นอาชีพเสริม อาชีพอิสระ ออกแบบเอง ผลิตเอง หาตลาดเอง ขายเอง รวยเอง 

โอกาสทางด้านธุรกิจ
การออกแบบเครื่องประดับ ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจทำเงินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะยุคสมัยไหน แฟชั่นยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่ควบคู่กับสังคมมาตลอด ดังนั้นตลาดเครื่องประดับยังไปได้อีกไกลทั้งในและต่างประเทศ การออกแบบเครื่องประดับจึงเป็นงานที่ยั่งยืนสำหรับผู้ที่มีความสามารถในด้านนี้แต่สิ่งสำคัญนักออกแบบจะต้องไม่หยุดคิดและหยุดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ และต้องตามกระแสสังคมและโลกแฟชั่นให้ทันด้วยครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by: gemteck1 on flickr

ธุรกิจทำเงิน เติมเงินมือถือออนไลน์ อาชีพเสริมที่น่าสนใจ

เติมเงินออนไลน์ อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
สวัสดีครับเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่าน หลังจากได้หยุดยาวกันไปแล้วหวังว่าคงได้พักผ่อนกันเต็มที่นะครับ วันนี้นายอาชีพจะมาแนะนำช่องทางทำเงินอีกเช่นเคยครับ อาชีพเสริมที่จะหยิบยกมาพูดคุยในวันนี้ นายอาชีพจะเน้นงานที่สามารถทำควบคู่กับงานประจำได้ครับ นั่นก็คือการเป็นตัวแทนเต็มเงินมือถือ
ออนไลน์ให้กับค่ายต่างๆครับ อันได้แก่ 1-2call , Dtac , Truemove H

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ต่างก็มีมือถือกันทั้งนั้นครับ ใครไม่ใช้มือถือ ถือว่าเป็นเรื่องแปลกพอสมควร ในเมื่อมีการใช้งานมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการโทรออก การใช้อินเตอร์เน็ต ท้ายที่สุดก็ย่อมมีรายจ่ายตามมา รายจ่ายตรงนี้แหละครับที่เป็นขุมเงินขุมทองของตัวแทนเติมเงินมือถือออนไลน์ ซึ่งตัวแทนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ตามที่บริษัทนั้นๆกำหนด ส่วนในเรื่องของส่วนต่าง ก็แล้วแต่ตัวแทนจะเรียกเก็บครับ เรียกได้ว่ามีรายได้เข้ามา 2 ทางเลยทีเดียว! ถือได้ว่าธุรกิจเติมเงินมือถือในยุคนี้ เป็นธุรกิจทำเงินที่สร้างรายได้ให้เราไม่น้อยเลยทีเดียว

อาชีพเสริมในการเป็นตัวแทนเติมเงินมือถือ เหมาะกับใคร?
  • ร้านค้าทั่วไปที่มีหน้าร้าน ถ้านำระบบเติมเงินออนไลน์เข้ามาเสริมจะทำให้สินค้าในร้านมีความหลากหลาย และผู้บริโภคก็จะมีตัวเลือกมากขึ้นครับ
  • พนักงานบริษัท ยิ่งถ้าอยู่ในองค์กรใหญ่ๆ เราจะมีลูกค้าประจำในองค์กรเลยนะครับ  
  • นักเรียนนักศึกษา เป็นที่รู้ๆกันว่าเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ ใช้โทรศัพท์กันเก่งแค่ไหน เต็มเงินแทบทุกวัน
  • ผู้ที่อยากมีอาชีพอิสระ ตั้งโต๊ะเติมเงินมือถือออนไลน์แบบจริงจังกันไปเลยครับ ทำได้ทุกสถานที่ ยิ่งได้ทำเลดีๆมีคนเยอะ รอบรองว่าได้เงินเป็นกอบเป็นกำอย่างแน่นอน
สรุป อาชีพเสริมเติมเงินมือถือ
การเป็นตัวแทนเติมเงินมือถือออนไลน์ ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดครับ เพราะทางค่ายโทรศัพท์ 1-2call , Dtac , Truemove H  ต่างก็เปิดรับตัวแทนอยู่ตลอด เพื่อเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าของเค้าอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจที่อยากจะทำอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริมหรือเล็งเห็นแล้วว่าธุรกิจนี้สามารถทำเงินได้ ก็สามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมการสมัครการเป็นตัวแทนเติมเงินมือถือในเว็บไซต์ของค่ายโทรศัพท์ที่กล่าวมาข้างต้นกันได้นะครับ แล้วพบกันใหม่กับ Blog อาชีพเสริม อาชีพทำเงิน กับผมนายอาชีพ ยินดีเป็นสื่อกลางให้เพื่อนๆได้พบกับอาชีพอิสระในฝันครับ

วิธีหารายได้เสริม กับแนวทางการขายบทความทางอินเตอร์เน็ต (ภาค 2)

วิธีหาเงินจากการเขียนบทความขาย
จากบทความที่แล้วเรื่อง วิธีหารายได้เสริมจากการเขียนบทความขายบนบนอินเตอร์เน็ต ผู้อ่านคงได้รู้ถึงวิธีการเขียนบทความและการวางโครงสร้างรวมไปถึงแนวทางในการเขียนบทความแต่ละประเภทกันแล้วใช่ไหมครับ เนื้อหาภาคนี้ จึงเป็นภาคต่อว่าด้วยเรื่องช่องทางการเปลี่ยนงานเขียนของเราให้เป็นรายได้และผลักดันผลงานของเราให้เป็นธุรกิจทำเงินที่ยั่งยืนครับ

2 ขั้นตอนการหารายได้เสริมจากการเขียนบทความ

1. สร้างผลงานออกมาจากสิ่งที่ชอบและถนัด ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของนักขียนมือใหม่ทุกคน เพราะการเขียนบทความจากความชอบ ความหลงไหล ความถนัด จะเป็นงานที่ออกมาอย่างธรรมชาติและสมบูรณ์ที่สุดโดยถูกกลั่นกรองและตกผลึกจากประสบการณ์ของตัวผู้เขียนโดยตรง ขั้นตอนนี้ควรหมั่นฝึกเขียนทุกวันให้เกิดความชำนาญในการเขียนและการใช้ภาษา อย่างที่บอกไปครับ การเขียนบทความควรเขียนด้วยความรักและความถนัด โดยความถนัดของแต่ละบุคคลก็ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีความรู้ในเชิงลึกในเรื่องต่างๆ เช่น

- การลงทุนในหลักตลาดทรัพย์ 
- วิธีการค้าการขาย 
- การเกษตร 
- ยานยนต์/พาหนะ 
- การใช้ภาษาต่างประเทศ 
- วิชาการ ความรู้

เมื่องานเขียนที่ถูกสร้างออกมาอย่างสดใหม่ตามโครงสร้างอย่างถูกต้อง ก็ถึงวิธีการปล่อยของครับ

2. หาช่องทางในการสร้างรายได้จากการขายบทความ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่นายอาชีพเรียกว่าการปล่อยของครับ ถึงขั้นนี้นักเขียนอิสระอย่างเราๆเริ่มมีทักษะและความชำนาญทางด้านการเขียนพอสมควร คราวนี้ก็ได้เวลาหารายได้จากผลงานที่สร้างมากับมือเสียทีครับ

ช่องทางในการหารายได้จากการเขียนบทความ หลักๆที่เป็นที่นิยม มี 2 ช่องทาง มีดังนี้ครับ

- การรับจ้างเขียนบทความ - 
โดยหลังจากเราทำการโปรโมทหรือประกาศตัวเองตามเว็บไซต์ต่างๆให้โลกได้รับว่าเรารับจ้างเขียนบทความ จากนั้นไม่นานก็จะมีลูกค้าติดต่อเราครับ ลูกค้าโดยส่วนใหญ่จะมีอาชีพเป็นเว็บมาสเตอร์ที่ดูแลเว็บไซต์ต่างๆที่ไม่มีเวลาอัพเดตข้อมูลในเว็บไซต์ของตนเอง ลองคิดดูนะครับว่าในประเทศไทยและต่างประเทศมีเว็บไซต์อยู่เป็นล้านๆเว็บไซต์ อนาคตในการหารรายได้เสริมในวงการนี้ยังอีกยาวไกลครับ ซึ่งถ้าเราเขียนงานได้ดีและส่งงานเร็ว ลูกค้ามักชื่นชมและบอกกันปากต่อปาก เมื่อลูกค้าเหนียวแน่น การเขียนบทความก็กลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินครับ

ราคาในการซื้อขายบทความ
บทความภาษาไทย ก็อยู่ในเรท 400 - 500 คำ อยู่ที่ราคา 50-60 บาท โดยส่วนใหญ่ผู้เขียนมักจะรับงานเขียนบทความขั้นต่ำประมาณ 5 บทความต่อลูกค้าหนึ่งคน

บทความภาษาอังกฤษ ก็จะแพงหน่อยครับ อยู่ในเรท 400 - 500 คำ ราคาประมาณ 300 - 450 บาท นับว่าเป็นรายได้ที่ไม่เลวเลยทีเดียว

กฏเหล็กอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนควรตระหนักไว้ คืออย่ารับงานจนเกินตัว เพราะถ้าผู้เขียนส่งงานให้ลูกค้าไม่ทัน เราจะเสียลูกค้าและผลเสียจะตามมาอย่างร้ายแรง สำหรับผมมันคือ ความเสียหายทางด้านธุรกิจที่ประเมินค่ามิได้ครับ

- การรวมบทความทั้งหมดเป็นเล่มเดียวแล้วทำเป็น E-Book -
รายได้จากช่องทางนี้จะเป็นในลักษณะที่นักเขียนอิสระ เขียนผลงานออกมาเป็นหลายๆบทและนำมารวมเป็นเล่มเดียว ลักษณะบทความใน E-Book (หนังสืออิเล็กทรอนิกส์) ส่วนใหญ่จะเป็นบทความที่มีประโยน์เฉพาะทาง สาเหตุผู้ที่ลงทุนยอมซื้อ E-Book ของเราไป ผู้ซื้อมักจะสามารถนำความรู้จาก E-Book ไปใช้ประโยน์ได้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งครับ ส่วนขั้นตอนและวิธีการซื้อขายอีบุ๊ค ก็เป็นดังนี้ครับ ลูกค้าที่ต้องการจะซื้อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จะโอนเงินเข้าไปในบัญชีธนาคารของนักเขียนหรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือ Paypal  หลังจากนั้นผู้ซื้อจึงจะได้สิทธิ์ เข้าไปดาวน์โหลด E-Book เป็นของตนเอง ราคาในการซื้อขายอีบุ๊คนั้นไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระว่ามีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนรวมไปถึงความยากง่ายในการเขียน ราคาอาจจะเริ่มต้น ตั้งแต่ หลักร้อยจนถึงหลักพันต่อการดาวน์โหลดเพียงครั้งเดียว  ในประเทศสหรัฐอเมริกานักเขียนส่วนใหญ่ นิยมขาย E-Book กันมาก เพราะการขายอีบุ๊ค สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นักเขียนออนไลน์หลายๆคนมีรายได้หลักแสนหรือหลักล้านบาทจากยอดการดาวน์โหลด E-Book ในแต่ละเดือนเลยทีเดียว ลองคิดดูครับ ในระหว่างที่นักเขียนออนไลน์เดินทางท่องเที่ยวหรือแม้แต่นอนหลับพักผ่อน ก็ยังมีผู้คนเข้าไปดาวน์โหลดอีบุ๊คของเราอยู่เรื่อยๆ ก็เท่ากับว่ามีเงินไหลเข้ามาอยู่ตลอดเวลา การขาย E-Book จึงถือเป็นธุรกิจทำเงินที่สามารถเรียกว่าเป็น Passive income เลยก็ว่าได้

ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงพอจะมองเห็นภาพรวม ในการหารายได้เสริมจากการเขียนบทความแล้วใช่ไหมครับ ว่าแนวทางและขั้นตอนในการเริ่มต้นการเป็นนักเขียนไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ขอแค่ให้เราฝึกฝนและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเกิดทักษะและความชำนาญ การหารายได้เสริมที่ทำเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป งานเขียนสามารถทำที่ไหนก็ได้ครับ จะทำที่บ้าน ท่องเที่ยวไปเขียนไปก็ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวโดนเจ้านายด่า ไม่ต้องทนรถติด  เพราะเราเป็นนายตัวเองครับ แล้วพบกันใหม่ครับ กับนายอาชีพ ใน Blog ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน  วันนี้เขียนมาซะยาวเลย ต้องขอตัวพักผ่อนก่อน ขอให้ร่ำรวยเงินทองกับธุรกิจที่ทำเงินนะครับ พี่น้องชาวไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง
"วิธีหารายได้เสริม จากการเขียนบทความขายบนอินเตอร์เน็ต (ภาค 1)"

ผู้เขียน: นายอาชีพ
photo by 401(K) 2012 on flickr

Popular