วิธีการรับเสื้อผ้าต้นทุนต่ำมาขาย ภาค2

แหล่งรับเสื้อผ้ามาขาย
อาชีพทำเงิน ตอน วิธีการรับเสื้อผ้าต้นทุนต่ำมาขาย

ต่อจากบทความเกี่ยวกับอาชีพเสริม อาชีพทำเงินที่ว่าด้วยเรื่องของวิธีการรับเสื้อผ้ามาขาย

บทความนี้จะพูดถึงเรื่องวิธีการรับเสื้อผ้ามาขายเช่นกัน แต่เป็นวิธีที่ทำให้ต้นทุนในการรับซื้อเสื้อผ้าที่มาขายนั้นต่ำและขายได้กำไรสูงสุด

บทความก่อนเป็นการแนะนำมือใหม่หัดขาย(เสื้อผ้า) ที่คิดไม่ออกว่าจะไปรับเสื้อผ้าจากไหนดี นายอาชีพก็เลยแนะนำขั้นพื้นฐาน โดยไป รับเสื้อผ้าจากตลาดโรงเกลือ รับเสื้อจากห้างแพลตตินัม รับเสื้อผ้าจากประตูน้ำ รับเสื้อผ้าจากตลาดจตุจักร รับเสื้อผ้าจากตลาดโบ้เบ้ และรับเสื้อผ้าทางอินเตอร์เนต


สถานที่แนะนำข้างต้นนั้น เป็นแหล่งรับซื้อเสื้อผ้าที่พ่อค้าแม่ค้าเสื้อผ้าส่วนใหญ่รู้จักกันดี เพราะมีให้เลือกมากมายหลายแบบ ราคาที่รับมาขายทำกำไรนั้นก็ใกล้เคียงกันกับนักขายท่านอื่น ใครโชคดีได้ทำเลดีก็ขายดีไป ใครได้ทำเลไม่ดีสินค้าก็ขายไม่ออก ค้างสต๊อก เงินจมบ้าง ไม่มีเงินหมุนเวียน
คราวนี้จะทำยังไงล่ะเพื่อให้อาชีพนี้ทำเงินให้เรา?  เพื่อให้ต้นทุนที่รับมาถูกกว่าคนอื่น ในขณะที่ขายในราคาเท่ากันกับคู่แข่ง ทำอย่างไรเราถึงจะได้กำไรมากกว่า

นายอาชีพก็ขอแนะนำ 3 วิธี ที่คนในวงการการค้าขายเสื้อผ้านั้นทำเป็นส่วนน้อย

1. เดินทางไปติดต่อโรงงานผลิตเสื้อผ้า และรับจากโรงงานผลิตเสื้อผ้ามาขาย
2. จ้างนักออกแบบ แล้วเอาแบบไปตัดที่โรงงานผลิตเสื้อผ้า และนำมาขายให้กับรายย่อย
3. เรียนออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าเองเลย แล้วนำแบบไปจ้างโรงงานตัดเย็บ และนำมาขายเองและขายให้รายย่อย

หลายๆคนมองว่าทั้ง3วิธีที่กล่าวนั้นยุ่งยาก ไม่ทันใจเหมือนฉีกซองมาม่ามากิน แต่ขอบอกครับว่า ถ้าเปรียบเทียบกลุ่มคนที่ขายเสื้อผ้าอาศัยอยู่ในปิระมิด

ทั้งสามข้อที่กล่าวมา จะอยู่บนยอดๆปิระมิด (ยิ่งอยู่สูงยิ่งทำเงินได้เยอะ)

ส่วนเรื่องการเรียนการออกแบบแพทเทริน์เสื้อผ้า หลายๆคนมองว่า ค่าเรียนต้องแพงแน่ๆ อีกทั้งเรื่องจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน

เปลี่ยนความคิดใหม่ได้แล้วครับ ทุกวันนี้ มีศูนย์เรียนฝึกอาชีพฟรีมากมายให้เลือกเรียนเกี่ยวกับอาชีพทำเงินหลายหลักสูตรนอกจากเรื่องเสื้อผ้า อีกทั้งในแต่ละจังหวัดก็มีสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานทุกจังหวัด
เวลาเรียนก็เลือกเรียนได้ มีทั้งหลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรระยะกลาง หลักสูตรระยะยาว กี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป
สนใจรายละเอียดเรียนฝึกอาชีพ คลิ๊กที่ >> อบรมฝึกอาชีพ เรียนฝึกอาชีพ

ที่กล่าวมาเป็นวิธีการส่วนน้อยที่คนในวงการค้าเสื้อผ้าเค้าทำกัน แต่ในทางกลับกัน ผลกำไรกลับมากกว่า

อย่าคิดว่าการขายเสื้อผ้านั้นการแข่งขันสูง เพราะทุกวันคนเราจับจ่ายใช้สอยซื้อเสื้อผ้าตลอด ไม่ต่างกับซื้อกับข้าวเลย
เราสามารถเลือกขายเสื้อผ้าได้หลากหลายรูปแบบถ้าเราเจาะกลุ่มลูกค้าเป็น

วิธีเจาะกลุ่มลูกค้า ให้แยกประเภทว่าเราอยากขายเสื้อผ้าแบบไหน หรือจะเปิดร้านขายแบบรวมๆก็ได้ไม่ว่ากัน


ก่อนอื่นต้องแยกเพศ เช่น เสื้อผ้าผู้ชาย เสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าเกย์ เสื้อผ้าทอม

ต่อมาก็แยกอายุ เช่น เสื้อผ้าเด็กอ่อน เสื้อผ้าเด็กเล็ก เสื้อผ้าเด็กโต เสื้อผ้าวัยรุ่น เสื้อผ้าคนทำงาน 
เสื้อผ้าใส่เล่นเด็กเล็กชาย เสื้อผ้าใส่เที่ยวเด็กโตชาย 
เสื้อผ้าใส่เล่นเด็กเล็กหญิง เสื้อผ้าใส่เที่ยวเด็กโตหญิง 
เสื้อผ้าวัยรุ่นชาย เสื้อผ้าวัยรุ่นหญิง
เสื้อผ้าใส่เล่นผู้ชาย เสื้อผ้าใส่เล่นหญิง 
เสื้อผ้าใส่เล่นผู้หญิง เสื้อผ้าใส่เที่ยวผู้หญิง
เสื้อผ้าวัยทำงานผู้ชาย เสื้อผ้าวัยทำงานผู้หญิง
เสื้อผ้าไซร์เล็ก เสื้อผ้าคนผอมชาย เสื้อผ้าคนผอมหญิง
เสื้อผ้าไซร์ใหญ่ เสื้อผ้าคนอ้วนชาย เสื้อผ้าคนอ้วนหญิง 
เสื้อผ้าคนมีอายุชาย เสื้อผ้าคนมีอายุหญิง
ชุดนอนเด็ก ชุดนอนเด็กโต ชุดนอนผู้ใหญ่ผู้ชาย ชุดนอนผู้ใหญ่ผู้หญิง
ต่อมาก็แยกสไตล์การแต่งตัว  เสื้อผ้าสไตล์แฟชั่น เสื้อผ้าแบบแนวๆ เสื้อผ้าสไตล์วินเทจ เสื้อผ้าสไตล์เกาหลี เสื้อผ้าสไตล์ดารา  เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น เสื้อผ้าสไตล์ไฮโซ 

ที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อที่จะชี้ให้คุณผู้อ่านนั้นได้จับทางถูกว่าตัวเองจะขายอะไร ขายให้ใคร 

ขายอะไรช่วงไหนถึงจะทำเงิน สมมุติ ฤดูหนาวมาวางขายเสื้อกล้ามก็คงไม่ใช่เรื่อง!! อาชีพทำเงิน คงไม่ทำเงินเป็นแน่ แนวทางก็มีแค่นี้ ที่เหลือก็เป็นเรื่องการตลาดของผู้ขายว่าจะขายในช่องทางไหน เช่นเปิดท้ายขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด  เปิดร้านขายเสื้อผ้าในตึกในบ้านย่านการค้า(กรณีมีทุน) เปิดร้านขายเสื้อผ้าทางอินเตอร์เนต(กำลังเป็นที่นิยม) 

ติดตาม อาชีพเสริม อาชีพทำเงิน กับนายอาชีพ บทความหน้านะครับ ร่ำรวยเงินทองครับทุกคน ^^


บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีการรับเสื้อผ้ามาขาย ภาค1
วิธีการทำกำไรจากการขายเสื้อผ้าให้ได้กำไร ภาค 3

เขียนโดย: นายอาชีพ
photo by epSos .de on flickr

วิธีการรับเสื้อผ้ามาขาย

รับเสื้อผ้ามาขาย
ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีแบบดี อัตตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นแถมงานก็หายากอีก จะหาอาชีพเสริมที่ทำเงินเพื่อเพิ่มรายได้ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี นายอาชีพก็เลยอยากจะชวนเพื่อนๆ ทำอาชีพเสริม คือ รับเสื้อผ้ามาขาย แต่เพื่อนคงจะติดปัญหาหลายๆอย่าง  เช่น จะรับเสื้อผ้าจากที่ไหนมาขาย อีกไหนคู่แข่งก็มีเยอะ เศรษฐกิจไม่ดีใครจะมาซื้อ นายอาชีพขอเสนอตัวไขข้อข้องใจโดยการเจาะธุรกิจขายเสื้อผ้าให้เพื่อนๆได้นำไปประกอบการตัดสินใจว่าจะทำอาชีพนี้ดีหรือไม่

เจาะธุรกิจการขายเสื้อผ้า การหาแหล่งรับซื้อเสื้อผ้ามาขาย



ตลาดโรงเกลือ
1.รับเสื้อผ้ามาขาย จาก ตลาดโรงเกลือ  อ. อรัญประเทศ  สินค้าในตลาดโรงเกลือนั้นมีมากมายมีทั้งสินค้าใหม่และเก่า เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพชร พลอย เครื่องเงิน และอีกมากมายหลายอย่าง ในที่นี้นายอาชีพจะพูดถึงเสื้อผ้ามือสองนะครับ
ถ้าเพื่อนๆรับเสื้อผ้ามือสองมาขายเพื่อนๆจะได้กำไรงามมากเพราะต้นทุนต่ำ โดยมากเสื้อผ้ามือสองของตลาดโรงเกลือมักจะเป็นของแบรนด์เนมแต่ตอนเลือกเราต้องคัดเลือกหน่อยเพื่อให้ได้สินค้าในสภาพที่ดี เห็นไหมครับแค่นี้เราก็มีสินค้าแบรนด์เนมราคาถูกได้ ถ้าเอาไปขายก็ยิ่งได้กำไรอีกหลายเท่าเลยทีเดียวนับเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินได้ดีทีเดียวสำหรับธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง

การเดินทาง
รถโดยสารประจำทาง 
บริษัทขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ออกจากสถานี 
ขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ โทร.0-2936-2852-66 ต่อ 311
รถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการขบวนรถโดยสาร
สายกรุงเทพ ฯ - สระแก้ว - อรัญประเทศ วันละ 2 ขบวน
เวลา 05.55 น. และ 13.05 น. 
อัตราค่าโดยสารคนละ 48 บาท 


2.รับเสื้อผ้ามาขาย จาก ห้างแพลทตินั่ม(ประตูน้ำ) 
ไปรับเสื้อผ้ามาขายจากแพลทตินั่มมีข้อดีคือ ที่นั่นมีเสื้อผ้าหลากหลายแนว วัยรุ่นวัยทีน วัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน เสื้อผ้าแฟชั่นที่ตามยุคสมัย ราคาก็มีตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ถ้าซื้อ มากก็จะได้ราคาก็จะถูกลงมาอีก ส่วนอุปกรณ์ต่างๆก็มีขาย มีทั้งไม้แขวน ราว ถุง หุ่น ไปแล้วได้ครบทุกอย่างอย่างแน่นอน ส่วนถ้าเราไปเดินที่ประตูน้ำคุณภาพเสื้อผ้าก็จะลดลงมาจาก ห้างแพลทตินั่มนิดนึง ที่สำคัญราคาถูกกว่า ไปตอนเช้าซัก 7 โมง คนจะน้อย ไม่แออัดด้วย ได้ของดี แบบเสื้อผ้าก็เยอะ หลักการขายของพ่อค้าแม่ค้าที่นั่นเค้าจะขายส่งต่อแบบ 3 ตัว หรือ 6 ตัวขึ้นไป สำหรับขายส่ง เรามีหน้าที่ไปเดินเลือกแบบสวยๆ เท่านั้นเอง ส่วนฝั่งแพลทตินั่มก็ส่งขั้นต่ำ 2 ตัวก็ยังมีเลย ข้อดีคือคละแบบได้ด้วย แบบสวยๆเยอะ แต่ก็ราคาแพง สำคัญที่สุดตอนจ่ายเงินอย่าลืมต่อราคาเสื้อผ้าด้วยล่ะ
ที่ตั้ง ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400


3.รับเสื้อผ้ามาขายจากจากตลาดโบ๊เบ๊ 
ตลาดโบ๊เบ๊ ตั้งอยู่ริมคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงระหว่างสะพานกษัตริย์ศึกกับตลาดมหานาค มีเสื้อผ้าจำหน่ายทุกชนิดโดยส่วนใหญ่ จะเน้นขายแบบยกโหล และราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นแหล่งขายส่งที่พ่อค้าแม่ค้าตลอดจนประชาชนทั่วไปนิยมมาจับจ่ายซื้อหามากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร  การขายส่งบริเวณด้านนอกตลาดโบ๊เบ๊จะเริ่มตั้งแต่เวลา 02.00 น. เป็นต้นไป ต่อจากนั้นประมาณ 07.00 น. แผงลอยและอาคารพาณิชย์ซึ่งตั้งอยู่ด้านในก็จะเปิดขาย ตลอดทั้งวัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าจากต่างจังหวัด เสื้อผ้าสำเร็จรูปยังเป็นที่นิยมของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และมาเลเซีย ส่วนตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดคือประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง 
ตลาดโบ๊เบ๊ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 
- โบ๊เบ๊เก่า อยู่ทางด้านริมทางรถไฟเขตปทุมวัน ตลาดแห่งนี้จะมีการค้าส่งขายเสื้อผ้าโดยเฉพาะเสื้อโหล ซึ่งเน้นตลาดกลางภายในประเทศ 
- โบ๊เบ๊ใหม่ อยู่ฝั่งเดียวกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือโรงพยาบาลหัวเฉียว มุ่งเน้นการส่งออก มีสินค้ามากว่าตลาดโบ๊เบ๊เก่า นอกจากเสื้อผ้ายังมีผ้าใบ ผ้าเต็นท์ หรือของเบ็ดเตล็ดอื่น 
ที่ตั้ง 488 ถนนดำรงรักษ์ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 
โทรศัพท์ 0-2628-1888 โทรสาร 0-2628-1777 
เวลาเปิด – ปิด 02.00 – 20.00 น. 
การเดินทาง รถโดยสารประจำทางสาย 37, 53, เรือโดยสารคลองแสนแสบ 


4.รับเสื้อผ้ามาขาย จาก สวนจตุจักร 
การไปเลือกซื้อควรไปช่วง ตี1ถึงตี4 ในคืนวันศุกร์หรือเช้าวันเสาร์ ที่จตุจักรขายส่งเสื้อผ้าแฟชั่นกันเยอะ มีทั้งกางเกงยีน และสินค้ามากมาย ราคาก็ต่อลองได้ มีหลากหลายแบบหลากหลายราคา ส่วนใหญ่ใครเป็นลูกค้าประจำมักจะได้ราคาที่ถูกกว่าชาวบ้านเค้า เพื่อนๆก็ไปตีสนิทกันเอาเองนะครับ 
การเดินทาง
มีหลายรูปแบบทั้งรถยนต์ส่วนตัวซึ่งต้องนำไปจอดที่ลานจอดรถตลาดนัดจตุจักรหรือ Park & Ride และมีรถรับส่งระหว่างลานจอดรถกับตลาดนัดจตุจักร (ประตู 2) หรือนั่งรถประจำทางซึ่งมีหลายสายผ่าน และที่สะดวกมากก็คือโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงที่สถานีหมอชิต หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีกำแพงเพชร นอกจากนี้ก็ยังมีรถแท็กซี่ และรถตู้หลายสายให้บริการ


5.รับเสื้อผ้ามาขาย จากการซื้อขายผ่าน Internet 
ข้อดีคือมีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อผ้าจีน เสื้อผ้าเกาหลี เสื้อผ้าญี่ปุ่น เสื้อผ้าที่ออกแบบเอง(ไม่เหมือนใครมีไม่กี่ตัว) และอีกมากมาย เพียงแค่เลือกร้านค้าออนไลน์ จะมีศูนย์รวมเสื้อผ้าแฟชั่นมากมายให้เข้าไปซื้อ แต่เพื่อนๆก็ต้องเช็คด้วยว่าเว็บที่ขายเสื้อผ้านั่นไว้ใจได้ไหม หลักการจ่ายเงินเพื่อรับสินค้าน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ถ้าจะให้ดีควรเลือกการจ่ายเงิน แบบเก็บเงินปลายทาง
ที่ตั้ง ค้นเอาเองใน GooGle นะจ้ะ


วิเคราะห์กลุ่มลูกค้่าผู้ซื้อเสื้อผ้า
สาเหตุที่การขายเสื้อผ้านั้นยังขายได้ แม้ว่าจะมีคู่แข่งมากมายแค่ไหน เป็นเพราะเสื้อผ้าเป็นปัจจัย4ที่มีความจำเป็นต้องใช้ จะสังเกตุได้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำแค่ไหน แต่คนก็ยังต้องสวมใส่เสื้อผ้าอยู่เหมือนเดิม ทั้งนี้ผู้ขายเสื้อผ้าต้องเจาะกลุ่มลูกค้าให้ได้ ว่าต้องการลูกค้ากลุ่มใด ลูกค้านั้นมีหลายกลุ่ม 
ก่อนอื่นต้องแยกเพศ เช่น เสื้อผ้าผู้ชาย เสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าเกย์ 
ต่อมาก็แยกอายุ เช่น เสื้อผ้าเด็กอ่อน เสื้อผ้าเด็กเล็ก เสื้อผ้าเด็กโต เสื้อผ้าวัยรุ่น เสื้อผ้าคนทำงาน เสื้อผ้าใส่เล่น เสื้อผ้าใส่เที่ยว เสื้อผ้าผู้ใหญ่
ต่อมาก็แยกสไตล์การแต่งตัว  เสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อผ้าเกาหลี เสื้อผ้าญี่ปุ่น เสื้อผ้าไฮโซ เสื้อผ้าคนอ้วน เสื้อผ้าคนผอม
ที่กล่าวมายังมีอีกมากมายครับในการเจาะกลุ่มลูกค้า เห็นไหมครับ ว่าจริงๆแล้วคู่แข่งเราน้อยมากถ้าเทียบกับสัดส่วนของประชากร เพียงแค่เพื่อนๆเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าให้ได้ แค่นี้ท่านก็อยู่เหนือตลาดการขายเสื้อผ้าได้แล้ว


ทำเลการขายเสื้อผ้า
อันนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่าสำคัญแค่ไหน เพราะถ้าทำเลดี โอกาสซื้อย่อมสูงตามมาด้วย ควรเลือกที่เป็นแหล่งชุมชนให้มากที่สุด หรือมีทุนหน่อยก็เป็นเช่าพื้นที่ในห้างก็ได้ไม่ว่ากัน ขายทางอินเตอร์เนตก็ได้แต่ต้องโปรโมทเก่งๆหน่อยเพราะคู่แข่งในโลกอินเตอร์เนตนั้นก็มีไม่น้อย


การบริหารจัดการ การขายเสื้อผ้า
เมื่อทำกำไรจากการขายเสื้อผ้ามาอย่าแล้วเอามาใช้จ่ายจนหมดนะครับ แยกกำไรต้นทุนให้ดี ควรทำบัญชีเอาไว้ ท่านจะได้ทราบว่าท่านได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ ถ้าได้กำไรก็มุ่งต่อไป แต่ถ้าขาดทุนก็ต้องเปลี่ยนแนวเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนทำเล

สุดท้ายนายอาชีพขอให้เพื่อนๆรวยๆกันทุกคนนะครับ ติดตามบทความ วิธีการรับเสื้อผ้ามาขาย ภาค2



บทความอื่นๆ ที่ได้รับความนิยม

วิธีการรับเสื้้อผ้าต้นทุุนต่ำมาขาย ภาค2 

เทคนิคและวิธีการทำกำไรจากการขายเสื้อผ้า ภาค3

แนวทางการสะสมและรับซื้อของเก่า ของโบราณ ไว้ขายเพื่อทำกำไร

วิธีการรับรับเท้ามาขาย รองเท้ามือหนึ่ง/รองเท้ามือสอง

วิธีการหาสินค้ามาขายบนอินเตอร์เน็ต

การหารายได้เสริมกับงานฝีมือ งานประดิษฐ์

เจาะธุรกิจ นวดแผนไทย นวดสปาไท

เรียนนวดแผนไทยที่ไหนดี? ที่นี่มีคำตอบ

วิธี รับจ้างพิมพ์งาน รายงาน วิทยานิพนธ์


photo 1. by Christian Guthier on flickr

เขียนโดย: นายอาชีพ

อาชีพเสริมอาชีพทำเงิน:รับจ้างพิมพ์งาน รับจ้างทำรายงาน รับจ้างทำวิทยานิพนธ์

รับจ้างพิมพ์งาน
อาชีพเสริม อาชีพทำเงิน เจาะธุรกิจ รับจ้างพิมพ์งาน รับจ้างทำรายงาน รับจ้างทำวิทยานิพนธ์
"อาชีพเสริม"นี้ถือเป็นอาชีพอิสระที่ทำเงินอย่างแท้จริงแต่ละชิ้นงานก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะรับงานหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับความขยัน กลุ่มเป้าหมายของอาชีพนี้นะครับ ก็ได้แก่ นักเรียน นิสิตนักศึกษา หรือแม้แต่คนทำงานก็เป็นลูกค้าชั้นดีเช่นกัน

อาชีพเสริมอาชีพทำเงินกับรายได้จากการ "รับจ้างพิมพ์งาน"
กลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนนักศึกษาและคนทำงานที่เรียนต่อระดับปริญญา
ลักษณะงาน ลูกค้านำต้นฉบับมาให้เราพิมพ์ตาม
อัตราค่าจ้าง ในการพิมพ์งานจะอยู่ที่หน้าละ 8-15 บาท แล้วจะตกลงกัน ลองคิดดูนะครับลูกค้าสั่งพิมพ์ 100 หน้า ลูกค้าจ้างพิมพ์หน้าละ 10 บาท ก็เป็นเงิน 1000 บาทแล้ว ถ้ามีคนมาจ้าง 10 คน เดือนหนึ่งก็ได้เห็นเงินหมื่นแล้ว (สำหรับคนที่พิมพ์คล่องๆ 100 หน้า เป็นเรื่องเล็กมากๆ)

เทคนิคการหาลูกค้า 
             1.โพสลงในอินเตอร์เนตรวมไปถึงตามเว็ปบอร์ดต่างๆ
            2.ทำนามบัตรหรือโบชัวร์แผ่นเล็กๆนำไปติดที่แหล่งชุมชน สถานศึกษา อพาร์ตเม้นต์ และอย่าลืมเขียนชื่อเบอร์โทรเราให้ชัดเจนด้วยนะครับ

อาชีพเสริมอาชีพทำเงินกับรายได้จากการ "รับจ้างทำรายงาน"
กลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา และ คนทำงานที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย 
ลักษณะงาน ลูกค้าจะบอกหัวข้อและอาจจะให้ข้อมูลมาเพียงคร่าวๆ เรามีหน้าที่ไปค้นคว้าข้อมูลในเรื่องที่เกี่ยวข้อง และเอามาเรียบเรียงลงในรายงาน 
อัตราค่าจ้าง ในการทำรายงานก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเนื้องานและจำนวนหน้า ถ้าเป็นรายงานง่ายๆของเด็กมัธยมที่ไม่เพียงไม่กี่หน้า ก็อยู่ที่ 300-500บาท ถ้าเป็นรายงานของระดับมหาวิทยาลัย ก็อยู่ที่ประมาณ 1500-6000 บาท บางชิ้นงาน อาจสูงกว่านั้น (เดือนนึงรับงานสัก 4-5 ชิ้นก็อยู่ได้แล้ว จริงไหม)
เทคนิคการหาลูกค้า 
             1.โพสลงในอินเตอร์เนตรวมไปถึงตามเว็ปบอร์ดต่างๆ
            2.ทำนามบัตรหรือโบชัวร์แผ่นเล็กๆนำไปติดที่แหล่งชุมชน สถานศึกษา อพาร์ตเม้นต์ และอย่าลืมเขียนชื่อเบอร์โทรเราให้ชัดเจนเช่นเคย
อาชีพเสริมรับจ้างทำรายงาน

อาชีพเสริมอาชีพทำเงินกับรายได้จากการ "รับจ้างทำวิทยานิพนธ์" 

กลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ลูกค้ากลุ่มนี้แค่ทำงานอย่างเดียวก็ไม่มีเวลาพักผ่อนอยู่แล้ว จึงต้องมีตัวช่วยอย่างเรา 

ลักษณะงาน คือเราอาจจะทำแค่เพียงบางส่วน เช่นการหาข้อมูล การเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง หรือแค่การพิมพ์งาน หรือจะรับเหมาทำหมดเลย หรืออย่างนึงอย่างใดตามแต่ลูกค้าต้องการ 

อัตราค่าจ้าง การรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ราคาอยู่ที่ความยากง่ายของเนื้องานเช่นกัน แต่ราคาไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทแน่นอน บางชิ้นงาน อยู่ที่ 50,000-80,000 บาทก็มี ถึงจะรายได้สูงขนาดนี้ก็ใช่ว่าจะทำกันง่ายๆ ผู้ที่รับจ้างทำวิทยานิพนธ์ ต้องมีความรู้ความชำนาญในเรื่องของการหาข้อมูลและการจัดรูปเล่มของงานพอสมควร) โดยมากผู้รับจ้างทำวิทยานิพนธ์ มักจะลงทุนเข้าไปเปิดร้านถ่ายเอกสารในสถานศึกษาหรืออยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัย โดยที่หน้าร้านจะติดป้ายร้านว่า รับถ่ายเอกสาร รับจัดรูปเล่มวิทยานิพนธ์ รับปรึกษาปัญหาวิทยานิพนธ์ ทุกอย่างที่เขียนมาก็ขึ้นอยู่กับผู้รับจ้างนะครับว่าจะหาช่องทางเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด แต่ถ้ามีฝีมืออันนี้แทบไม่ต้องลงทุนในเรื่องสถานที่ ลูกค้ามาหาเองครับ

เทคนิคการหาลูกค้า 
             1.โพสลงในอินเตอร์เนตรวมไปถึงตามเว็ปบอร์ดต่างๆ
            2.ทำนามบัตรหรือโบชัวร์บอกไปว่า รับปรึกษาปัญหาวิทยานิพนธ์
             3.ทำชิ้นงานให้มีคุณภาพ เพื่อลูกค้าจะได้บอกกันปากต่อปาก ว่างานของเรามีคุณภาพ (คราวนี้แหละ รับงานกันไม่หวาดไม่ไหวแน่ๆ)

เห็นไหมละครับ จากอาชีพเสริมที่ธรรมดากลับกลายเป็นอาชีพที่ทำเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และการโปรโมท อาชีพเสริมประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์คล่องๆและมีเวลาว่างพอสมควร แต่ถ้าคิดจะทำกันแบบจริงจังควรจ้างทีมงานมาเพิ่ม ในเรื่องการหาข้อมูล หรือแม้แต่ในเรื่องของการพิมพ์และการจัดรูปแบบ แต่ถ้าจะรับเป็นเพียงแค่อาชีพเสริม ก็ไม่ควรให้อาชีพเสริมไปกระทบต่ออาชีพหลักนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผู้เขียนไม่เตือน

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ บทความหน้าจะมาแนะนำอาชีพเสริมอาชีพทำเงินมาให้ท่านๆทั้งหลายได้ติดตามกันอีกแน่นอนครับ ขอให้ร่ำรวยๆครับ ^^

เขียนโดย: นายอาชีพ

ธุรกิจทำเงิน นวดแผนไทย นวดสปาไทย

นวดแผนไทย
เจาะธุรกิจนวดแผนไทย นวดสปาไทย
อาชีพเสริม อาชีพทำเงิน วันนี้ขอแนะนำอาชีพ นวดแผนไทย และ นวดสปาไทย ซึ่งคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นอาชีพทำเงินที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเป็นอย่างมากในตอนนี้
โดยค่าชั่วโมงในการนวดแผนไทยจะมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ในแต่ละทำเลที่ตั้ง แต่โดยปกติแล้ว ค่านวดจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 150-200บาท บางแห่งชั่วโมงละ 300บาท หรืออาจจะมากกว่านั้น


ปัจจุบันอาชีพนวดแผนไทยยังเป็นที่ต้องการอีกมาก โดยจะเห็นว่าผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่ ต้องโทรจองคิวล่วงหน้า อาจเป็นเพราะปริมาณของหมอนวดแผนไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้มาใช้บริการ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการยึดอาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย เป็นอาชีพหลักก็ดีหรือจะเป็นอาชีพเสริมก็ดี เพราะอาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย ยังเป็นอาชีพทำเงินอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ที่สนในฝึกอาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย มีศูนย์ฝึกอาชีพหลายแห่งให้เลือกเรียนมากมาย มีทั้งแบบเสียเงินและ ฝึกอาชีพฟรี ในที่นี้ก็ขอเสนอข้อมูลสถานที่เรียนฝึกอาชีพฟรีมาให้ท่านผู้ที่สนใจได้ศึกษารายละเอียดตามนี้เลยนะครับ ศูนย์ฝึกอาชีพฟรี
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เรียนนวดแผนไทย นวดสปา หลังจากผ่านการเรียนฝึกอาชีพ มักจะได้งานทำในทันที โดยมากจะเป็นการแนะนำงานจากอาจารย์ผู้สอน ถ้าโชคดีท่านอาจได้ไปถึงต่างประเทศ เพราะตลาดต่างประเทศกำลังเติบโตและเป็นที่ต้องการอาชีพนวดแผนไทย และ นวดสปาไทย เป็นอย่างมาก  เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน

รายได้ จากการประกอบอาชีพนวดแผนไทย

สำหรับผู้ที่ทำเป็นอาชีพเสริม
1.       อิสระนวดตามบ้าน ลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีฝีมือในการนวด ผู้ใช้บริการนวดจะโทรนัด  ท่านให้มาที่บ้าน หรือผู้ใช้บริการอาจจะมาที่บ้านของท่าน ท่านสามารถได้ค่าชั่วโมงในการนวดแบบเต็มๆโดยไม่โดนหักค่าสถานที่
2.       อิสระนวดในสถานประกอบการ ลักษณะนี้เป็นการนวดในสถานที่ของคนอื่น ลูกค้าจะเข้ามาเรื่อยๆ แต่ค่าชั่วโมงในการนวดจะมีการแบ่งกับเจ้าของที่ตามจะตกลงกัน

สำหรับผู้ที่จะทำเป็นอาชีพหลัก
1.       เดินทางไปทำงานต่างประเทศ รายได้จะดีมากขึ้นอยู่กับค่าเงินของประเทศนั้นๆ
2.       เป็นลูกจ้างของสถานประกอบการนั้นๆแบบเต็มตัว เช่น ร้านสปาในโรงแรม รีสอร์ท ต่างๆ
3.       เป็นเจ้าของกิจการเปิดเป็นสถานประกอบการโดยที่เราเป็นหมอนวดแผนไทยเองและจ้างหมอนวดแผนไทยคนอื่นๆมาเพิ่ม

สาเหตุที่อาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย ยังไปได้อีกไกลและสร้างรายได้
การสนับสนุนการนวดแผนไทย  ปัจจุบันการนวดแผนไทยได้รับความนิยมและเผยแพร่ไปทั่วโลก  เนื่องจากความตื่นตัวในเรื่องการรักษาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด คนไทยเองก็มีทัศนคติที่ดีต่อการนวดไทยและต้องการใช้บริการนวดมากขึ้น ดังนั้นทั้งภาครัฐและเอกชนจึงมีการสนับสนุนการนวดแผนไทยมากยิ่งขึ้น   เช่น
-   กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการส่งออกได้ให้ความสำคัญและจัดอันดับธุรกิจนวดแผนไทยไว้อันดับต้นๆ ตลาดเป้าหมาย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน
-  มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา จัดตั้งโครงการฟื้นฟูการนวดแผนไทย   เพื่อให้คนไทยสามารถดูแลตนเองขั้นพื้นฐานได้โดยอาศัยการนวดแผนไทย
-   มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์     เปิดสอนวิชาชีพนวดแผนไทยให้กับคนตาบอด  ที่ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอด  อำเภอปากเกร็ด  จังหวัดนนทบุรี
-   ด้านวงการธุรกิจของเอกชนก็เปิดให้บริการนวดแผนไทยมากขึ้น และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีการเปิดธุรกิจฝึกอบรมทักษะนวดแผนไทยให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนใจอีกด้วย
-   มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาที่จัดการสอนด้านการแพทย์ร่วมมือกับมูลนิธิ  องค์กร และโรงเรียนที่สอนนวดแผนไทย ทำการศึกษาวิจัยเพื่อรวบรวมองค์ความรู้ด้านการนวดแผนไทย
- รายละเอียด ศูนย์ฝึกอาชีพฟรี

      เห็นข้อมูลแบบนี้แล้วก็เริ่มมั่นใจได้นะครับว่า อาชีพนวดแผนไทย นวดสปาไทย ยังไปได้อีกไกลเลยทีเดียว ใครจะยึดเป็นอาชีพหลัก อาชีพเสริม ก็ไม่ว่ากัน เพราะเป็นอาชีพที่ทำเงินแน่นอน


ท่านวดแผนไทย

ก่อนที่จะยึดอาชีพนวดแผนไทยทำมาหากิน เราต้องมารู้จักความหมายของ คำว่านวดแผนไทย กันก่อน
การนวดแผนไทย หรือ นวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการยืดเส้น และการกดจุด ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ "นวดแผนโบราณ" โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นมีประวัติมาจากประเทศอินเดีย และมีการนำเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของสังคมไทย จนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทยและส่งทอดมาจนถึงปัจจุบัน
การนวดแผนไทยแบ่งเป็น 2 สาย คือ สายราชสำนักและสายเชลยศักดิ์

การนวดแบบราชสำนัก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของการนวดนี้คือ เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ที่อยู่ในรั้วในวัง ฉะนั้นการนวดจึงถูกออกแบบที่เน้นการใช้นิ้วมือและมือเท่านั้น และท่วงท่าที่ใช้ในการนวดมีความสุภาพเรียบร้อย มีข้อกำหนดในการเรียนมากมาย ผู้ที่เชี่ยวชาญทางวิชาชีพด้านนี้ จะได้ทำงานอยู่ในรั้วในวังเป็นหมอหลวง มีเงินเดือนมียศมีตำแหน่ง

การนวดแบบเชลยศักดิ์ เป็นการนวดที่ใช้ในระดับชาวบ้านด้วยท่าทางทั่วไป ไม่มีแบบแผนหรือพิธีรีตองในการนวดมากนัก อีกทั้งยังสามารถใช้อวัยวะอื่นๆ เช่น เข่า ศอก เท้า เพื่อช่วยทุ่นแรงในการนวดได้ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากการนวดแบบราชสำนักที่เน้นการใช้มือเพียงอย่างเดียว

หลักและวิธีการนวด
วิธีการนวดที่ถูกต้องจะทำให้ผู้นวดไม่เหนื่อย และการนวดก็ได้ผลเต็มที่ มีความสะดวกและปลอดภัยทั้งผู้นวดและผู้รับการนวด วิธีการนวดที่ถูกต้องเริ่มตั้งแต่ลักษณะการวางมือให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะนวด  เพื่อให้ใช้แรงที่กดนั้นลงตามจุด และมีน้ำหนักเพียงพอที่จะรักษาโรค  ซึ่งการวางมือ การวางเท้า  การนั่งของผู้นวด ต้องเหมาะกับมือที่กดลงบนผู้ป่วย เรียกได้ว่า เป็นสัดส่วนองศา และทิศทางในการนวด ดังนั้นจึงมีหลักสอนให้จำง่าย ๆ ว่า  ลักษณะการนวดที่ถูกต้อง คือ "แขนตึง  หน้าตรง  องศาได้"
ลักษณะหรือเทคนิควิธีการนวดแผนไทย มีวิธีการ ดังนี้ คือ
1) การกด  2) การคลึง  3)  การบีบ  4) การดึง   5)  การบิด   6)  การดัด  7) การตบ การทุบ การสับ    8) การเหยียบ ส่วนอวัยวะที่ใช้ในการนวด แบบทั่วไป ได้แก่  มือ  ศอก  และเท้า แต่การนวดแบบราชสำนักจะใช้เฉพาะมือเท่านั้น

มารยาทในการนวด 
การนวดไทยเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่มีวัฒนธรรมอันดีงาม  การนวดจึงต้องมีมารยาทในการนวดเสมอ  เนื่องจากการนวดเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างคนสองคนโดยตรง  แต่คนไทยเราไม่นิยมการถูกเนื้อต้องตัวกัน  ผู้นวดต้องระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ   โบราณจึงมีหลักเกณฑ์มารยาทในการนวดไว้  เช่น   ก่อนทำการนวด  ผู้นวดต้องพนมมือไหว้ระลึกถึงครูอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาให้เรา  ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ เพื่อให้การนวดครั้งนี้สำเร็จ ถ้าเป็นการนวดแบบราชสำนัก ผู้นวดต้องยกมือไหว้ผู้ถูกนวด เพื่อขอขมาที่ต้องมีการสัมผัสร่างกายกัน ตามประเพณีและวัฒนธรรมของไทย   ผู้นวดไม่ควรนั่งใกล้ชิดตัวผู้นวดมากเกินไป  และเวลานวดควรระวังไม่อยู่ในลักษณะที่คร่อมตัวผู้นวด ไม่ควรหายใจรดตัวผู้ถูกนวด  เป็นต้น

ข้อห้ามสำหรับการนวดแผนไทย การนวดแผนไทยต้องนำไปใช้ให้เหมาะสมจึงจะเกิดประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็จะเกิดโทษเช่นกัน  ผู้นวดทุกคนต้องรู้จักข้อห้ามของการนวด   อาการหรือประวัติของคนไข้ที่ไม่ควรใช้วิธีการนวด    เช่น     
1)  มีไข้  หน้าแดง  ปากแดง   
2)  มีอาการปวดมาก  บวม  แดง ร้อนที่ข้อ  เอ็น และกล้ามเนื้อ  
3)  มีบาดแผลเปิด
4)  มีผื่นขึ้นตามตัวหรือสงสัยว่าจะเป็นโรคผิวหนัง (อาจติดต่อได้จากการสัมผัส)  
5)  ภาวะกระดูกหัก/ข้อเคลื่อนที่ยังไม่ติดดี   
6)  มึนเมาขาดสติหรือหมดความรู้สึก  
7)  กล้ามเนื้อเกร็ง กระตุก ฯลฯ

ผลดีและผลเสียของการนวดไทย
การนวดแผนไทยเป็นการรักษาโรควิธีหนึ่ง
ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากแต่ก็อาจมีผลเสียได้ถ้านำไปใช้ไม่ถูกวิธี
ผลจากงานวิจัยพบว่าการนวดแผนไทย สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้มีประโยชน์ด้านสุขภาพ   ส่วนผลเสียอาจเกิดจากตัวผู้นวดไม่มีความชำนาญ   ไม่รอบคอบ   สถานที่นวดไม่สะอาด  เป็นต้น

พร้อมเรียนฝึกอาชีพแล้ว เลือกสถานที่ฝึกอาชีพฟรีได้เลยครับ [ ศูนย์ฝึกอาชีพฟรี ]

      เห็นไหมครับการที่จะมีอาชีพที่มั่นคงนั้นไม่ยากเลย ขอให้เราตั้งใจตั้งมั่นและศึกษา ไม่นานจากอาชีพเสริมก็จะกลายมาเป็นอาชีพที่ทำเงินขึ้นมาเอง เอาใจช่วยทุกคนนะครับผมจะเป็นกำลังใจให้เสมอ บทความหน้า ผมจะคัดอาชีพที่ทำเงิน มาให้ท่านได้ศึกษาอีก ติดตามเรื่องต่อไปนะครับ


>>>>>> อาชีพทำเงิน เรียนนวดแผนไทยที่ไหนดี ที่นี่มีคำตอบ  คลิ๊ก


เขียนโดย: นายอาชีพ

Popular