4 อาชีพเสริมทำเงิน ที่ยังคงมาแรงถึงยุคนี้

อาชีพที่ทำเงินในยุคนี้
พบกับนายอาชีพอีกเช่นเคยกับ blog ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน วันนี้นายอาชีพจะมาวิเคราะห์อาชีพที่ยอดฮิตและยอดนิยมของคนไทยในยุคนี้ กันครับ พูดถึงโลกของเราทุกวันนี้มันแคบลงนะครับ คงเป็นเพราะระบบการติดต่อสื่อสารทุกวันนี้สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส อีกทั้งประชาคมโลกได้มีการรวมตัวเป็นกลุ่ม เพื่อจุดประสงค์ หลายๆด้าน เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง อาชีพใหม่ๆจึงเกิดขึ้นอย่างมากมายช่องทางทำเงินจึงมีมากตามมาด้วยในยุคนี้

4 อาชีพเสริมทำเงิน ยอดฮิตและมาแรงที่ยังคงติดลมบนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

1. สอนพิเศษ ติวเตอร์ ทางด้านภาษา (Tutor)
อาชีพสอนพิเศษ หรือ ติวเตอร์ จริงๆแล้วเป็นอาชีพเสริมยอดนิยมมานานแล้ว แต่ในช่วงปีสองปีนี้ อาชีพนี้จะมาแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากการตื่นตัวและต้องเตรียมพร้อมการเข้าสู่ AEC หรือประชาคมเศษรฐกิจอาเซียน ที่กำลังจะเข้ามาในปี 2558 หลายๆคนเริ่มเล็งเห็นความสำคัญทางด้านการสื่อสารทางด้านภาษาอังกฤษ เด็กเล็ก เด็กโต รวมถึงผู้ใหญ่จึงหาที่เรียนกันยกใหญ่ ช่วงนี้จึงถือเป็นยุคทองของอาชีพติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษ ถ้าสังเกตุดีๆสถาบันสอนภาษาได้เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด อาชีพสอนพิเศษจึงยังคงถือว่าเป็นอาชีพที่มาแรงเหมือนเดิม

2. ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) หรือแปลเป็นไทยแบบตรงๆก็คือ "การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" ในยุคที่อินเตอร์เนตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและได้กลายมาเป็นส่วนหนึงของชีวิตเรา อินเตอร์เนตได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของสังคมเมืองเป็นอย่างมาก การซื้อขายสินค้าทางอินเตอร์เนตมีมากขึ้น ผู้ประกอบกาทั้งรายใหญ่และรายย่อยเริ่มหันมาปรับตัวโดยหันมาทำการตลาดแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านค้า การโฆษณาและกระจายสินค้า สินค้าที่ยอดฮิตและเป็นที่นิยมที่ซื้อขายบนโลกอินเตอร์เนต เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ มือถือ และอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เกิดผลดีกับผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อก็มีตัวเลือกมากขึ้น เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถหาข้อมูลสินค้าเพื่อเลือกซื้อและเปรียบเทียบราคาได้อย่างรวดเร็ว เป็นการประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนต่างๆได้ดีทีเดียวสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้น ผู้ที่ทำอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงเป็นอาชีพที่มาแรงและจะยังคงแรงอีกต่อไปตราบใดที่มนุษย์ยังใช้ internet


3. ฟรีแลนซ์ (Freelance) ฟรีแลนซ์เป็นอาชีพอิสระที่หลายๆคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องอยู่ในกรอบและกฏของใคร อาชีพฟรีแลนซ์เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ หลายๆคนลาออกจากงานประจำเพื่อมาประกอบอาชีพฟรีแลนซ์เพราะรายได้ดีและทำเงินเป็นอย่างมาก แต่การจะทำอาชีพอิสระแบบนี้ได้ หาใช่ทำได้ง่ายๆนะครับ เพราะคนที่จะเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพ ต้องเป็นคนที่มีฝีมือและความชำนาญในด้านนั้นๆพอสมควร เพราะถ้าไม่เจ๋งพอก็คงอยู่ไม่ได้ อาชีพที่เป็นที่นิยมของชาวฟรีแลนซ์ ก็มีหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างดังนี้ครับ เช่น นักเขียน ช่างภาพ นักออกแบบ คนทำเว็บไซต์ นักการตลาดออนไลน์  และอีกมากมาย คนทำงานประจำหลายๆคนรับงานฟรีแลนซ์เป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน ถ้าแบ่งเวลาเป็นก็เท่ากับว่าคนเหล่านั้นมีรายได้ถึงสองทาง ดังนั้นฟรีแลนซ์จึงเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินและมาแรงอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2014

4. นักลงทุน (Investor) ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจกับการลงทุนเป็นอย่างมาก คนทำงานประจำหลากหลายอาชีพหันมาเป็นนักลงทุนกันมากขึ้น นักลงทุนในที่นี้คือกลุ่มคนที่นำเงินเก็บหรือเงินออมของตนเองมาลงทุนในด้านต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ทองคำ พัธบัตรรัฐบาล อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยการเลือกลงทุนของแต่ละบุคคลก็จะแตกต่างกันไป เป้าหมายของนักลงทุนก็คือกำไรจากการลงทุน โดยส่วนต่างที่งอกเงยจากการลงทุนด้านนั้นๆคือกำไรนั่นเอง หลายๆคนประสบความสำเร็จจากการลงทุน แต่ก็มีหลายคนขาดทุนเช่นกัน ดังนั้นการจะเป็นนักลงทุนที่ดีและประสบความสำเร็จได้นั้น นักลงทุนควรจะต้องมีความรู้ในด้านนั้นๆพอสมควร มีนักลงทุนหน้าใหม่เกิดขึ้นในทุกวัน ทั้งที่เป็นนักลงทุนชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติ จำนวนนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นตัวชี้วัดว่า อาชีพนักลงทุนยังคงแรงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ช่องทางทำเงิน นั้นมีอยู่มากมาย อยู่ที่ว่าใครเห็นโอกาสและลงมือทำ การสะสมความรู้ความชำนาญจนเกิดทักษะถือว่าเป็นการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน แม้โลกจะเปลี่ยนและหมุนเร็วแค่ไหน คนเหล่านี้เมื่อไปอยู่ที่ใด ย่อมไม่มีคำว่าอดตายอย่างแน่นอน

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by Robin Tobin on flickr


3 เหตุผลหลัก ที่ต้องหาอาชีพเสริม ก่อนที่จะสายเกินไป

อาชีพเสริม
สวัสดีครับเพื่อนๆ พบกับนายอาชีพ อีกเช่นเคยใน blog อาชีพเสริมทำเงิน วันนี้นายอาชีพ จะมาพูดถึงเหตุผลที่เราต้องหาอาชีพเสริม ก่อนที่จะสายเกินไป และทำไมต้องพูดถึงเรื่องนี้

เหตุผลง่ายๆครับ เพราะค่าครองชีพทุกวันนี้สูงเหลือเกิน อีกทั้งการแข่งขันเรื่องปากเรื่องท้องก็สูงไม่แพ้กันด้วย ที่สำคัญ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า AEC ที่จะเข้าในปี 2558 นี้ทำให้กลุ่มอาเซียน มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมืออย่างเสรี สิ่งนี้แหละที่ทำให้เราต้องรีบปรับตัวในทุกๆด้าน หลายๆคนตื่นตัวกับเรื่องนี้ และก็ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังนิ่งนอนใจเพราะคิดว่าคงไม่มีผลกระทบอะไรมากนักกับชีวิต..

3 เหตุผล ที่ต้องรีบหาอาชีพเสริมมาเพิ่มรายได้

1. เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางด้านการเงิน ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม เรื่องนี้มีผบกระทบเป็นอย่างมากต่อระบบการวางแผนทางการเงิน หลายๆคนเริ่มเป็นหนี้สิน เมื่อรายจ่ายนั้นมีมากกว่ารายได้ บางคนโชคดีหน่อยเป็นหนี้ในระบบ แต่ถ้าเป็นหนี้นอกระบบเมื่อไหร่ ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น ข้อนี้จึงถือเป็นเหตุผลหลักที่ต้องหาอาชีพเสริมเพื่อมาเพิ่มรายได้และมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอนั่นเอง

2. เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ ไม่ว่าอาชีพเสริมทางด้านไหนที่ท่านเลือก เมื่อท่านทำไปแล้ว รับรองว่าจะเกิดทักษะและความชำนาญในด้านนั้น ท่านสามารถนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจได้ ยกตัวอย่าง การไปเรียนทำเบเกอรี่ หลังจากที่ท่านเรียนไปแล้ว ท่านสามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสูตรต่างๆให้กับเบเกอรี่ของท่านมีมูลค่าที่สูงขึ้นไปอีก หลักจากนั้นก็ทำการตลาด อาจจะเปิดร้าน หรือกระจายสินค้าไปในจุดต่างๆ หรือถ้าท่านชอบงานเสริมเกี่ยวกับช่าง เมื่อท่านไปเรียนวิชาช่างตามศูนย์ฝึกอาชีพระยะสั้น และเมื่อท่านเรียนจบ นอกจากท่านจะได้ความรู้ความชำนาญ ท่านสามารถนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพ อาจจะเปิดร้านเล็กๆ หรือถ้าเกิดความชำนาญและมีฝีมือ ก็สามารถโกอินเตอร์ได้เลย เพราะ AEC เปิดโอกาสให้เคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออยู่แล้ว

3. เพื่อรองรับความไม่แน่นอน ข้อนี้เป็นที่รู้กันดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน งานประจำที่ทำอยู่รายได้ดีก็จริง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพรุ่งนี้ เราหมดสัญญาจ้าง โดนปลดออก หรือบริษัทที่ทำมีปัญหา สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ถ้าเรามีอาชีพเสริมที่สามารถทำเงินให้เราได้ ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินก็คงทะเลาไปได้บ้าง

เรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่เห็นมาจริง
เมื่อครั้งยังวัยรุ่น นายอาชีพ มีเพื่อนบ้านคนนึง มีอาชีพเป็น Sale ขายยาตามโรงพยาบาลและร้านขายยา ตอนนั้นเงินเดือนและค่าคอมมิสชั่นของชายผู้นี้ รายได้รวมแล้วก็ตกประมาณ 3 - 4 หมื่นบาท เค้ามีภรรยาและลูกสาว1คน พูดไปแล้ว เงินจำนวนนี้ ก็อยู่ได้อย่างสบายๆกับครอบครัวเล็กๆที่แสนอบอุ่น

เรื่องนี้เหมือนจะจบแบบสวยงาม..

วันเวลาผ่านไป...ชายผู้นี้ก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาทางบริษัทก็หาทางบีบพนักงานทีมีอายุมากออก โดยอ้างว่าผลประกอบการของบริษัทติดลบและอาจจะต้องปิดตัวลง จึงต้องปลดพนักงานออกเพราะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เงินที่เก็บออมเอาไว้ก็ค่อยๆหมดไปเพราะต้องมีรายจ่ายอยู่ทุกๆวัน จะหาอาชีพเสริมทำ ก็ไม่มีความรู้เพราะไม่เคยคิดจะทำมาก่อน บ้านยังผ่อนไม่หมด รถยังผ่อนไม่หมด อายุก็มากแล้ว ทุกอย่างพังลงมาเหมือนปราสาททราย ทุกวันนี้ เพื่อนบ้านผู้นี้มีอาชีพเป็นยามรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แกยังคงสู้ชีวิต ถึงแม้อายุจะมาก แต่ก็ต้องดิ้นรนต่อไป..เพื่อครอบครัว

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by K. Kendall on flickr

"วิธีหารายได้เสริม จากการขายภาพถ่ายบนโลกออนไลน์"

สร้างรายได้จากการถ่ายภาพ
ช่องทางทำเงิน อาชีพเสริมทำเงิน และผมนายอาชีพ วันนี้จะมาบอกเล่าถึงวิธีการหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเพื่อนๆกันนะครับ สำหรับช่องทางทำเงินในวันนี้ นายอาชีพก็จะมาพูดถึงวิธีการหารายได้จากอินเตอร์เน็ต โดยวิธีนี้จะเป็นการหาเงินจากการขายภาพถ่ายออนไลน์ หรือการขายภาพถ่ายที่เราถ่ายเก็บไว้แล้วนำไปขายบนโลกอินเตอร์เน็ตนั่นเอง

งานนี้เหมาะกับเพื่อนๆที่ชอบถ่ายภาพนะครับ ใครที่ไม่ชอบถ่ายภาพก็สามารถอ่านบทความนี้ได้เช่นกันครับ ถือซะว่าเป็นแนวคิดหรือเป็นทางเลือกอีกหนึ่งช่องทางในการหาเงินผ่านอินเตอร์เน็ตก็แล้วกัน มาดูกันครับว่าวิธีการขายรูปภาพออนไลน์ ขายแล้วได้เงินจริงไหม มีรายได้มาจากไหน และถ้าอยากหารายได้เสริมแบบนี้ต้องทำอย่างไร ไปพบกับคำตอบพร้อมกันเลยครับ

ก่อนอื่นผมจะขออนุญาตอธิบายแบบให้เห็นภาพกว้างๆและเข้าใจง่ายที่สุดนะครับ เพื่อที่มือใหม่ที่สนใจช่องทางการทำเงินโดยวิธีนี้จะได้มองเห็นภาพได้ครับ ส่วนใครพอรู้วิธีการหาเงินโดยการขายภาพอยู่แล้ว ก็อ่านผ่านๆก็ได้ครับ

ขั้นตอนในการขายภาพบนโลกออนไลน์

1. มีรูปภาพที่เป็นของตัวเอง ย้ำว่าเป็นรูปที่คุณถ่ายเอง คุณอาจจะถ่ายภาพอะไรก็ได้ครับ เช่น วิวทิวทัศน์ รูปคน สัตว์ สิ่งของ ถ่ายออกมาให้ชัดเจน ที่สำคัญองค์ประกอบของภาพต้องไม่ขาดและไม่เกิน

2. เข้าไปสมัครสมาชิกเว็บไซต์ประเภท Microstock (ไมโครสต๊อก) เว็บไซต์ประเภทไมโครสต๊อก คือเว็บไซต์ที่ให้บริการและเป็นตัวกลางในรับซื้อขายภาพโดยผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตครับ เหมือนกับร้านขายของ เรานำของไปฝากขาย และก็มีผู้ซื้อมารับซื้อจากร้าน เพียงแต่สินค้าชนิดนี้ก็คือภาพถ่ายนั่นเอง

เว็บไซต์ประเภทไมโครสต๊อกที่เราสามารถไปสมัครได้ก็มีดังนี้ครับ
  • www.dreamtime.com 
  • www.istockphoto.com
  • www.shutterstock.com 
  • และเว็บไซต์ไมโครสต๊อก อื่นๆ
ให้เลือกเองได้ตามใจชอบครับ แต่ส่วนตัวผมขอแนะนำให้สมัครไปที่เว็บ www.dreamtime.com เพราะเห็นหลายๆคนลงความเห็นว่า การส่งรูปไปทดสอบที่ Dreamtime น่าจะผ่านง่ายที่สุดแล้วครับ

3. หลังจากที่เราลงทะเบียนเปิดบัญชีขายภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องอัพโหลดภาพถ่ายของเราเข้าไปทดสอบคุณสมบัติภาพ โดยภาพที่ใช้อัพโหลดควรเป็นไฟล์ .JPG ที่มีความละเอียดสูงครับ หลังจากนั้นก็รอผลการตรวจสอบครับ เพราะทางไมโครสต๊อกจะต้องตรวจดูก่อนว่าภาพของเราผ่านมาตรฐานเค้าหรือเปล่า

4. สมมุติว่าภาพของเราผ่านการตรวจสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือให้เราเข้าไปใส่รายละเอียดภาพครับ เหตุผลที่ต้องใส่รายละเอียดภาพก็เพื่อที่ผู้สนใจที่ต้องการซื้อภาพถ่ายของเรา สามารถค้นหารายละเอียดของภาพของเรา และทำการตัดสินใจซื้อครับ

5. รอรับรายได้ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่หลายๆคนรอคอยครับ เราสามารถเข้าไปเช็ครายได้ของเราได้ตลอดครับ ว่าวันนี้มีคนเข้ามาซื้อภาพมากน้อยแค่ไหน ลืมบอกไปครับ ว่าภาพหนึ่งภาพเราสามารถขายได้หลายครั้งครับและหลายคนครับ ฉะนั้นแล้วถ้าเรายิ่งอัพโหลดภาพเข้าไปมากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะขายภาพก็ยิ่งมีมากขึ้นครับ และรายได้ก็จะตามมาครับ

เพื่อนๆอาจสงสัยใช่ไหมครับ ว่าคนจะซื้อภาพเราไปทำไม แล้วใครคือคนที่จะเข้ามาซื้อ เหตุผลง่ายๆครับ คนซื้อส่วนใหญ่นำภาพที่ซื้อไปทำงานด้านต่างๆครับ เช่น ทำภาพประกอบเว็บไซต์ ทำงานด้านกราฟฟิก ทำงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ แผ่นพับ ใบปลิว โปสเตอร์ต่างๆ เพื่อนๆอาจจะสงสัย อ้าว! จะเข้ามาซื้อทำไมให้เสียเงิน ทำไมไม่ก็อบปี้รูปภาพจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีให้เลือกตั้งเยอะแยะ สาเหตุที่ผู้ซื้อมาซื้อภาพจากเรา ก็เพราะจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ภาพครับ อย่าลืมนะครับว่าภาพทุกภาพมีเจ้าของ ภาพที่ไปก็อบจากเน็ตแล้วนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาต เคยมีกรณีโดนฟ้องเป็นหมื่นเป็นแสนมาแล้วครับ ฉะนั้นเสียเงินซื้อภาพไม่กี่ตังค์ หมดห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ ทำงานแบบสบายใจครับ หรือเพื่อนๆอาจจะมีคำถามว่า แล้วทำไมเค้าไม่ถ่ายภาพเองมาซื้อเราทำไม ถามว่าถ้าชาวต่างชาติอยากได้ภาพถ่ายที่เป็นสถานที่ เช่น วัดไทยไปประกอบงาน เค้าต้องบินมาเมืองไทยเพื่อมาถ่ายภาพภาพเดียวเลยหรอครับ ซึ่งมองดูแล้วคงไม่คุ้มแน่ๆ เลือกซื้อภาพในไมโครสต๊อกคงจะดีกว่าเพราะมีภาพสวยๆให้เลือกมากมาย

เป็นยังไงบ้างครับ เพื่อนๆพอจะเห็นภาพกว้างในการเข้ามาหารายได้เสริมโดยวิธีนี้หรือยังครับ รายละเอียดเชิงลึก และวิธีในการสมัคร ถ้าเพื่อนๆสงสัยก็สามารถโพสสอบถามนายอาชีพได้ครับ โดยเข้ามาที่ช่องทาง www.facebook/archeepfree  นายอาชีพยินดีตอบข้อสงสัยครับ และสำหรับเพื่อนๆที่มีความสนใจ และมองว่าการขายภาพถ่ายออนไลน์เป็นช่องทางทำเงินที่สามารถยึดเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระได้ งานนี้ไม่ต้องห่วงครับว่าเราเดินบนเส้นทางนี้คนเดียว เพราะมีคนไทยหลายคนครับที่ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม ว่างๆเพื่อนๆลองเข้าไปที่เว็บไซต์ www.stockphotothailand.com /forums/ แล้วจะเห็นชุมชนคนไทยเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเทคนิคการถ่ายภาพและโชว์รายได้จากการขายภาพ  มีคนไทยบางคนครับ มีรายได้หลักล้าน จากการขายภาพถ่ายออนไลน์ ไม่แน่นำครับ อาชีพเสริมตัวนี้อาจจะเป็นอาชีพที่ทำเงินให้คุณแบบไม่คาดคิดเลยทีเดียว

ผู้เขียน: นายอาชีพ
บทความที่เกี่ยวข้อง > ช่องทางทำเงิน หารายได้เสริมบนโลกอินเตอร์เน็ต

วิธีการหารายได้เสริม แบบพอเพียงและเรียบง่ายสไตล์น้าชาติ

อาชีพรับจ้างทั่วไป
       เมื่อวันก่อนนายอาชีพได้มีโอกาส เดินทางไปท่องเที่ยวสวนผลไม้ของเพื่อนที่ต่างจังหวัด และได้มีโอกาสสัมภาษณ์พ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาซื้อผลไม้ที่สวนแห่งนี้ หัวข้อในบทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการทำอาชีพเสริมและวิธีการหารายได้ของคนแถบนั้น จากการที่ได้พูดคุยกับน้าชาติซึ่งแกมีอาชีพเสริมเป็นพ่อค้ารายย่อย โดยน้าชาติจะมาเล่าถึงวิธีการหารายได้เสริมแบบพอเพียงและเรียบง่ายให้เราฟัง ทุกๆเช้าน้าชาติจะเข้ามาเก็บสินค้าเกษตรไปนั่งขายที่ตลาดช่วงเย็น

อาชีพหลักของครอบครัวน้าชาติจริงๆแล้วคือการทำห่อหมกขาย ซึ่งจะมี ห่อหมกปลา ห่อหมกหน่อไม้ ห่อหมกหัวปลี โดยส่วนใหญ่ภรรยาของน้าชาติจะเป็นผู้ลงมือทำ รายได้จากการทำห่อหมก โดยหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกวันละ 300-350 บาท 

ส่วนหน้าที่ของน้าชาติ แกจะมีหน้าที่ตะเวนหาของมาขายเพิ่มเติม เพื่อให้มีสินค้าหลากหลายและเพิ่มรายได้ให้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้น้าชาติจะเรียนไม่สูง แต่น้าชาติก็รู้จักวางแผนในการหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว โดยวิธีการวางแผนหารายได้เสริมของน้าชาติคือ ในแต่ละปีน้าชาติจะดูปฎิทิน น้าชาติมองเห็นแล้วว่า 1 ปี มี 12 เดือน และในแต่ละช่วงเดือนของปี น้าชาติจะรู้ว่ามีผลผลิตที่หมู่บ้านไหนออกมาบ้าง เช่น ผัก ผลไม้ หน่อไม้ เห็ดนางฟ้า เห็ดฝาง ปลา ไก่ ลูกอ๊อด และอีกหลายอย่าง เมื่อผลผลิตในท้องถิ่นไหนได้เวลาเก็บเกี่ยว น้าชาติก็จะเข้าไปติดต่อและขอเข้ารับซื้อในราคาที่ถูกเพราะน้าชาติลงมือเก็บเอง 

จะเห็นได้ว่าใน 1 ปี น้าชาติสามารถหาของมาขายได้แทบทุกวัน นับเป็นช่องทางทำเงินง่ายๆไม่ยากเลย แต่ก็อย่างที่บอก อาชีพเสริมของน้าชาติเป็นพ่อค้ารายย่อย แกจึงเข้าไปรับซื้อสินค้าได้ไม่มากนัก รายได้เสริมหลังหักต้นทุนในการรับซื้อเฉลี่ยต่อวันจากการเข้าไปซื้อผลผลิตต่างๆ ก็จะตกวันละ 300-400 บาทต่อวัน รวมกับการขายห่อหมกของภรรยา เมื่อรวมกันก็เป็นเงินประมาณ 700-800 บาทต่อวัน ถึงจะเป็นเงินไม่มากสำหรับบางคน แต่น้าชาติกับภรรยาก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพอเพียง 

ทุกวันนี้น้าชาติไม่มีหนี้สิน แถมยังมีเงินออม อนาคตน้าชาติมีเป้าหมายอย่างหนึ่งคือ เก็บเงินซื้อที่ดินสัก 3 ไร่ น้าชาติเล่าว่าเมื่อถึงวันนั้น น้าชาติก็จะดำเนินชีวิตแบบพอเพียง และนำทฤษฏีใหม่ของพ่อหลวงเข้ามาปรับใช้ โดยน้าชาติจะจัดสรรที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยแบ่งที่ดินเป็นที่อยู่อาศัย 1 ส่วน ปลูกผักผลไม้ พืชไร่ 1 ส่วน ขุดสระกักเก็บน้ำไว้เลี้ยงปลา 1 ส่วน และปลูกข้าวไว้กินในครัวเรือนอีก 1 ส่วน น้าชาติบอกว่าแค่คิดก็มีความสุขแล้ว ถ้าฝันของน้าชาติเป็นจริงแกบอกว่าในแต่ละวันแทบไม่ต้องใช้เงินเลย เพราะมีกินมีใช้ในพื้นที่ของตนเอง แถมมีผลผลิตไว้ขายเพื่อสร้างเสริมสร้างรายได้อีก

      เป็นยังไงครับ กับวิธีหารายได้แบบเรียบง่าย จากอาชีพเสริมจนเป็นอาชีพที่ทำเงิน ตราบใดที่ขยันและรู้จักวางแผนและบริหารจัดการรายได้ที่เข้ามา นายอาชีพเชื่อว่าความฝันของน้าชาติคงไม่ไกลเกินจริงอย่างแน่นอนครับ 

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by archeep


Popular