แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกษตรทำเงิน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกษตรทำเงิน แสดงบทความทั้งหมด

เพาะเห็ดฟางในตะกร้าขายเป็นอาชีพเสริม ทำง่ายแถมสร้างรายได้อย่างมั่นคง

การเพาะเลี้ยงเห็ดฟางในตะกร้า
"ในช่วงที่่ผ่านมานายอาชีพสังเกตุเห็นเกษตรกรในหลายๆพื้นที่ เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการเพาะเลี้ยงเห็ดฟางขายเพื่อเป็นอาชีพเสริมกันมากขึ้น" 

แม้แต่ชาวสวนยางทางภาคใต้ก็เริ่มหันมาทำฟาร์มเพาะเลี้ยงเห็ดฟางกันบ้างแล้ว คงเป็นเพราะราคายางที่เริ่มตกต่ำ ทางแก้ก็คงต้องหาอาชีพเสริมที่ทำเงินและสามารถเพิ่มรายได้มาทดแทนในส่วนที่เสียไป "ถามว่าทำไมต้องเป็นเห็ดฟาง?" เหตุผลง่ายๆก็คือ เห็ดฟางเป็นพืชเศรษฐกิจ มีคุณค่าทางอาหารสูง คนไทยนิยมบริโภคและเป็นที่ต้องการของตลาด เห็ดฟางสามารถเพาะเลี้ยงได้ทุกฤดูกาล อีกทั้งราคาขายของเห็ดฟางก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเลยทีเดียว (ราคาของเห็ดฟางจะดีมากในช่วงฤดูหนาวและช่วงเทศกาลกินเจ) และที่สำคัญผลผลิตสามารถเก็บไปขายได้ภายใน 7-12 วัน รวดเร็วทันใจ วงจรเก็บผลผลิตใช้เวลาสั้นมาก ถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเห็ดฟางเป็นอย่างมาก

การเพาะเห็ดฟางมีหลายรูปแบบ อาทิเช่น  การเพาะเห็นฟางในโรงเรือน การเพาะเห็นฟางในนาข้าว การเพาะเห็นฟางในตะกร้า การเพาะเห็นฟางแบบกองเตี้ย และอื่นๆ ทั้งนี้รูปแบบการเพาะเลี้ยงเห็ดฟางของแต่ละกลุ่มและบุคคลจะไม่เหมือนกัน ด้วยเพราะปัจจัยต่างๆ เช่น ทำเลและพื้นที่ รวมไปถึงเงินลงทุน

มาเพาะเห็นฟางในตะกร้ากันเถอะ
ในบทความนี้นายอาชีพก็จะมาแนะนำเพื่อนๆมาเพาะเห็ดฟางในตะกร้า เพราะการเพาะเห็ดฟางในตะกร้านั้น ใครๆก็ทำได้ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นและมีความตั้งใจที่จะทำเป็นอาชีพเสริม  การเพาะเห็ดฟางในตะกร้านั้นใช้พื้นที่น้อย และลงทุนไม่สูง วัสดุอุปกรณ์ต่างๆก็หาง่ายมีอยู่รอบตัวเรา ถ้าผิดพลาดทางเทคนิคก็ถือซะว่าเป็นการทดลอง (ซึ่งก็ต้องมีบ้าง) แต่ถ้าผลผลิตออกมาดีเกินที่คาดเอาไว้ ก็แสดงว่าเรามีแววทางด้านนี้แล้วล่ะ แนะนำให้เตรียมเงินลงทุนและต่อยอดทำเป็นฟาร์มเพาะเห็ดแบบครบวงจรได้เลยครับ 

ขั้นตอนและเทคนิควิธีการเพาะเห็นฟางในตะกร้า
ก่อนอื่นเราต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนนะครับ โดยเตรียมก้อนเชื้อเห็ดฟาง ตะกร้าพลาสติก ฟางข้าว  สุ่มไก่หรือโครงโรงเรือน พลาสติกและวัสดุพลางแสง ส่วนพวกอาหารเสริมก็จะมี แป้งสาลี ผักตบชวาหรือรำละเอียด
1. ทุบก้อนเชื้อเห็ดฟางในถุงให้แตกพอประมาณแต่ไม่ต้องให้ถึงกับละเอียด นำมาผสมกับแป้งสาลี 1ช้อนชา จากนั้นแบ่งก้อนเชื้อเห็ดฟางออกเป็น 2กอง กองละเท่าๆกัน (เชื้อเห็ดฟาง 1 ถุง แบ่งออกเป็น2กองสามารถเพาะเห็ดฟางได้ 2 ตะกร้า)
2. ให้ใส่ฟางข้าวที่ผ่านการแช่น้ำไว้แล้ว 1 คืน ลงไปในตะกร้า ให้ฟางข้าวมีความสูงประมาณ 2-3 นิ้ว กดให้พอแน่น
3. โรยอาหารเสริมลงไป จะเป็นผักตบชวาที่หั่นไว้หรือรำละเอียดก็ได้ โรยลงไปรอบๆบนฟางข้าว แต่อย่าใส่อาหารเสริมมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการเน่าเสียได้
4. นำเชื้อเห็ดฟางมาโรยรอบๆทับไปบนอาหารเสริม โดยเน้นโรยที่ช่องของตะกร้า ถึงตอนนี้เราจะได้เป็น ชั้นที่ 1 เรียบร้อย (1ตะกร้าจะต้องทำ 3 ชั้น)
5. ทำชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 ด้วยวิธีการเดิมแบบข้างต้น จากนั้นปิดชั้นที่ 3 ด้วยฟางข้าว จากนั้นรดน้ำใส่ตะกร้าให้เปียกชุ่ม (ถึงตอนนี้เราก็จะได้ตะกร้าเพาะเห็ดฟาง 1 ตะกร้าเป็นที่เรียบร้อย)
6. นำตะกร้าเห็ดฟางไปวางไว้บนพื้นที่ที่เราเตรียมไว้ วางไว้บนเหนือพื้นดินประมาณ 3-4นิ้ว (นำก้อนอิฐมาวางรองเป็นฐานอย่าให้ติดพื้น)
7. จากนั้นก็นำโครงไม้ไผ่หรือสุ่มไก่มาครอบตะกร้า
8. นำพลาสติกมาคลุมโครงหรือสุ่มจากด้านบนถึงพื้นให้มิดชิดจากนั้นก็คุมด้วยวัสดุพลางอีกที

ขั้นตอนดูแลเห็ดฟางในตะกร้าเพาะเลี้ยง
1. รักษาอุณหภูมิในโรงเรือนให้อยู่ที่ประมาณ 30 -40 องศา
2.ในวันที่4 ช่วงตอนเย็น ให้เปิดพลาสติกที่คลุมออกเพื่อให้อากาศเข้าไปกระตุ้นเส้นใย ใช้เวลาเปิดรับอากาศประมาณ 30 นาที
3.ในวันที่ 5 เป็นต้นไป ในช่วงตอนเย็น ให้เปิดพลาสติกที่คลุมสุ่มพอประมาณ ให้อากาศถ่ายเทใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นก็คลุมพลาสติกให้มิดชิดเหมือนเดิม
4. ในวันที่ 7 ช่วงนี้เห็ดฟางจะเจริญเติบโตขึ้น สามารถเก็บผลผลิตได้ในวันที่ 8-9
5. การเก็บเห็ดฟางควรเก็บด้วยความนุ่มนวลอย่าให้บอบช้ำ จากนั้นก็นำส่งขายที่ตลาดหรือนำไปบริโภคได้เลย

นายอาชีพลืมบอกเพื่อนๆไปว่าการเพาะเห็ด 1 ตะกร้า สามารถเก็บเห็ดฟางได้ 2 ถึง 3 รุ่น และการเพาะเห็ด 1 ตะกร้า สามารถเก็บเห็ดฟางได้ประมาณ 1 กิโลกรัม ราคาขายเห็ดฟาง 1กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 50-100บาท (แล้วแต่ช่วงฤดูกาลและเทศกาล) 

ช่องทางทำเงินทางการตลาดในการขายเห็ดฟางนั้นมีหลายช่องทางมากครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะขายในช่องทางไหน จะติดประกาศให้คนเข้ามารับซื้อในฟาร์ม จะวางขายที่หน้าฟาร์ม หรือจะส่งตลาดสดก็ได้ ยิ่งถ้ามีผลผลิตออกมามากแนะนำให้ขายส่งกับทางตลาดไทเลยครับ

สรุปเรื่องการเพาะเห็ดฟางเป็นอาชีพเสริม
ธุรกิจการทำก้อนเชื้อเห็ดฟางขาย และ การเพาะเห็ดฟางขาย ทั้งสองแนวทางนี้ถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่ดีเลยทีเดียว เป็นที่รู้กันดีว่าเห็ดฟางเป็นเห็ดที่คนไทยนิยมบริโภคเป็นอย่างมากและเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา เห็ดฟางสามารถทำรายได้และให้ผลตอบแทนสูง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ จึงคุ้มค่าต่อการเพาะเลี้ยง ดังนั้นการเพาะเห็ดฟางขายจึงถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่ทำเงินเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนๆที่สนใจทำธุรกิจฟาร์มเห็ดและไม่ว่าจะเป็นเห็ดชนิดไหนก็ตาม นายอาชีพแนะนำให้ศึกษาหาความรู้ทฤษฏีในการปฎิบัติ รวมไปถึงปัญหาอุปสรรคในการเพาะเลี้ยงเห็ดให้มากๆ นายอาชีพเชื่อว่าธุรกิจนี้ยังไปได้อีกไกลมาก ที่สำคัญธุรกิจเพาะเลี้ยงเห็ดฟางสามารถทำเงินและยึดเป็นอาชีพหลักที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน

ผู้เขียน: นายอาชีพ

"ขายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ " อีกหนึ่งธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจ พร้อมแนวคิดดีๆ ก่อนที่จะลงทุน

ขายพันธุ์ไม้ ธุรกิจที่น่าสนใจ
ช่องทางทำเงินวันนี้นายอาชีพจะมาแนะนำอีกหนึ่งธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่รักธรรมชาติและการเกษตรเป็นอย่างยิ่ง นายอาชีพหวังว่าบทความนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหาอาชีพเสริม อาชีพอิสระกันอยู่นะครับ

"เพื่อนๆเคยสังเกตุกันบ้างไหม" เวลาเราเดินทางผ่านไปในเส้นทางต่างๆ บางครั้งเราจะพบเห็นรถยนต์จอดอยู่ริมถนนสองข้างทางโดยเฉพาะหน้าร้านขายต้นไม้ ดอกไม้และของตกแต่งสวน  นายอาชีพจึงอดคิดไม่ได้ว่าทุกวันนี้ ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการตกแต่งสวนหย่อมและพยายามขยายพื้นที่สีเขียวกันมากขึ้นหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสวนด้วยไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัว พืชมงคล ไม้ใหญ่หรือไม้ยืนต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังเป็นกระแสนิยมในสังคมเมืองกันอย่างมากเลยทีเดียว

จากการสังเกตุ แม้แต่ที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัดอย่างคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ ก็เริ่มมีการตกแต่งสวนหย่อมแบบน่ารักๆไว้ชื่นชมกัน ยิ่งถ้ามีบริเวณหรือพื้นที่เยอะหน่อย ก็คงได้เพลิดเพลินกับการตกแต่งจนลืมเวลากันไปเลยทีเดียว

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะมี ธุรกิจขายต้นไม้ ดอกไม้ และพันธุ์ไม้ต่างๆเกิดขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการให้กับคนที่รักธรรมชาติและรักการเกษตรอย่างเป็นชีวิตจิตใจ


"มาเข้าเรื่องการทำธุรกิจ" สำหรับเพื่อนๆที่กำลังคิดอยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจลงทุนเปิดร้านขายต้นไม้ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหน? เริ่มต้นยังไง?  "อย่างแรกเลย นายอาชีพขอแนะนำ" ก่อนอื่นท่านต้องมีใจรักและความสนใจในงานชนิดนี้อยู่พอสมควร ต่อมาก็คือความพร้อมที่จะลงมือทำและควรเริ่มศึกษาหาข้อมูลของธุรกิจที่จะทำอย่างจริงจัง ที่สำคัญอย่าลืมสำรวจตลาดด้วยว่าแต่ละช่วงเวลาผู้คนต้องการสินค้าชนิดใด ประเภทใด  "ถึงตอนนี้" นายอาชีพก็มีแนวทางเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนลงทุนมาให้เพื่อนๆที่สนใจในธุรกิจนี้ได้เก็บไว้เป็นข้อมูลอีกเช่นเคยครับ

แนวทาง สำหรับมือใหม่ กับการเริ่มต้นเปิดร้านขายต้นไม้เป็นอาชีพเสริม สู่อาชีพที่ทำเงิน
ขั้นตอนในการเตรียมตัวก่อนลงทุน อย่างแรกเลยนะครับ ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราจะเปิดร้านขายต้นไม้แบบไหน จะผลิตแล้วขายเอง หรือ รับมาจากผู้ผลิตแล้วนำมาขายต่ออีกทอดนึง แต่เหนือสิ่งอื่นใดในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ผู้ลงทุนทุกคนจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูล พันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึงประโยชน์ของพันธุ์ไม้ต่างๆ และควรศึกษาวิธีการ ปักชำ ตอนกิ่งไว้บ้าง เพราะความรู้ที่ศึกษาสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงไงครับ

เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆก่อน เริ่มจากหาพันธุ์ไม้ กล้าไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัว แล้วค่อยขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เพื่อนๆเคยได้ยินวลีนี้ไหมครับ "กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว" วลีนี้นำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ครับ นายอาชีพเแนะนำให้เริ่มต้นจากความพอดีและพอเพียงค่อยๆเป็นค่อยๆไปเปรียบเสมือนเหมือนการเริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์เพียงไม่กี่เมล็ดจากนั้นก็ค่อยๆแตกหน่อและเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่และแข็งแรงในที่สุด

ถึงวันหนึ่ง ถ้าร้านของเราเริ่มเติบโตและมีลูกค้าเยอะขึ้น ถึงตอนนั้นเราก็ค่อยๆขยายธุรกิจโดยเริ่มทำให้ครบวงจรก็ไม่สายเกินไปครับ โดยเราอาจจะเพิ่มช่องทางรายได้ต่างๆ เช่น ขายเมล็ดพันธุ์ อุปกรณ์ตกแต่งสวน หรืออุปกรณ์ทางการเกษตร หรือจะรับจัดและตกแต่งสวนควบคู่ไปด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะจะทำให้ร้านขายต้นไม้ของเราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น หรือจะเปิดร้านขายกาแฟสดควบคู่ไปด้วยก็ไม่ว่ากัน เป็นการสร้างบรรยากาศให้พื้นที่ดูมีสีสันมากขึ้นอีกด้วย

อีกหนึ่งช่องทางการทำเงินจากธุรกิจขายต้นไม้ ก็คือการบริการให้เช่าต้นไม้ โดยให้เช่าทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มรายได้ให้กับทางร้านของเรา เพราะลูกค้าบางคน บางกลุ่ม หรือบางหน่วยงาน มักจะมีการจัดงาน จัดอีเว้นท์ หรือจัดงานพิธีที่ต้องใช้ไม้ประดับเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการให้เช่าต้นไม้จึงเป็นรายได้เสริมที่ทำเงินให้กับร้านขายต้นไม้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดร้านขายต้นไม้ ทั้งร้านขายปลีกและขายส่ง

ร้านขายส่ง(ผู้ผลิต) คุณต้องมีความรู้ มีเงินทุน มีพื้นที่ มีเรือนเพาะชำ มีดินร่วนปนเหนียว มีแกลบ ปุุ๋ยและสารอาหารต่างๆของดิน มีถุงดำ มีเมล็ดมาเพาะ มีพันธุ์ไม้/กล้าไม้ มีการดูแลรักษา มีรถในการจัดส่งสินค้า เช่นรถบรรทุก และการหาตลาดโดยการนำรายการสินค้าที่เรามีไปเสนอขายร้านขายต้นไม้(ขายปลีก)หลายๆแห่ง หรือถ้าอยู่ในทำเลที่ดี ก็ทำหน้าร้านไปด้วยเลย

ร้านค้าปลีก คุณต้องมีความรู้ มีเงินทุน มีทำเลที่ดี มีหน้าร้าน มีพื้นที่วางและจัดสินค้า(ต้นไม้) มีการดูแลรักษาสินค้า มีรถขนส่งสินค้าให้ลูกค้า(กรณีที่ร้านใหญ่) และสุดท้ายการบริหารการจัดการที่ดี คน เงิน งาน และวัสดุอุปกรณ์

ช่องทางทำเงินกับธุรกิจบนเส้นทางสายเกษตรที่นายอาชีพนำมาเสนอให้เพื่อนๆได้อ่านนี้ ก็เป็นเพียงแนวคิดเล็กๆเพื่อที่จะให้ผู้อ่านได้เห็นภาพก่อนการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้มากที่สุด ที่สำคัญการทำสิ่งใดด้วยใจรักและมีความสุขกับงานที่ทำ ในที่สุดผลลัพธ์ก็จะออกมาดี สุดท้ายนายอาชีพเชื่อว่าธุรกิจของเราก็จะประสบความสำเร็จ เงินทองก็จะไหลมาเทมาอย่างแน่นอนครับ ^^

ข้อคิดธุรกิจ
- สำรวจความต้องการของตลาด ว่าผู้คนต้องการอะไร และอะไรเป็นที่นิยมในแต่ละช่วงเวลา
- มีทำเลในการขายที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เขียนโดย: นายอาชีพ

เพาะถั่วงอกคอนโดเพื่อขาย อาชีพทำเงินของคนที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด

เพาะถั่วงอกขาย อาชีพเสริมสร้างรายได้ดี
หากถามว่า ผักอะไรเอ่ย? ที่ใช้เวลาในเวลาการเพาะปลูกน้อยที่สุด หลายๆคนคงตอบได้อย่างทันทีเลยว่า"ถั่วงอก" วันนี้เหมียววดีจะมาแนะนำอาชีพเสริมจากการเกษตรแบบง่ายๆที่สร้างรายได้ให้กับเราอย่างไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นก็คือ "การเพาะถั่วงอกขาย"

ถั่วงอกเกิดจากการเพาะเมล็ดถั่ว ซึ่งสามารถเพาะได้จากถั่วหลายชนิด แต่เมล็ดถั่วเขียวจะเป็นที่นิยมที่สุด ถั่วงอกถือว่าเป็นผักที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงทั้งโปรตีนและเกลือแร่ เวลาที่ใช้ในการเพาะถั่วงอกนั้นก็แสนสั้นใช้เวลาเพียง 3-4 วัน และที่สำคัญถั่วงอกเป็นผักที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง เพราะในการปรุงอาหารทั้งไทย จีน อาหารพื้นบ้าน อาหารเจและมังสวิรัต ก็ยังใช้ถั่วงอกเป็นส่วนประกอบหรือเป็นเครื่องเคียง

การเพาะถั่วงอกเพื่อขายนั้น จึงถือว่าเป็นธุรกิจทำเงินที่น่าสนใจและยังคงมาแรงถึงยุคปัจจุบันเลยทีเดียว เหมียววดีจึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้ถึงวิธีทำเงินจากการเพาะถั่วงอกเพื่อขายไว้เป็นทางเลือกของอาชีพเสริมกันค่ะ


วิธีการเพาะถั่วงอกเพื่อขาย
การเพราะถั่วงอก มีหลากหลายวิธี เช่น เพาะในทราย เพาะในขวดน้ำ หรือเพาะในหม้อดิน และอีกหลายวิธี แต่วันนี้ เหมียววดี มีวิธีการเพาะถั่วงอกเพื่อขาย ที่เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่จะได้ปริมาณถั่วงอกที่มาก ด้วยวิธีการง่ายๆเหมาะผู้เริ่มต้นกับการเกษตรเชิงสร้างสรรค์ นั่นก็คือ "การเพาะถั่วงอกคอนโด" เราไปดูกันเลยค่ะว่ามีอุปกรณ์อะไรและมีวิธีการเพาะถั่วงอกคอนโดอย่างไร

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเพาะถั่วงอกคอนโด
1. ถังขนาด 30 ลิตร มีฝาปิดและทึบแสง นำมาเจาะรูที่ก้นถังให้ทั่วเพื่อระบายน้ำที่รดถั่วงอก
2. ผ้ากระสอบ ตัดเป็นวงกลมเท่ากับขนาดก้นถัง จำนวน 7 ผืน
3. ตะแกรงปิ้งปลา ให้นำมาดัดขาให้สูง 1 นิ้ว จะใช้วางที่ก้นถัง เพื่อให้ถั่วงอกคอนโดชั้นแรกหยั่งรากได้
4. ตะแกรงไนล่อน หรือตาข่ายพลาสติก ต้องมีรูเล็กกว่าเมล็ดถั่ว นำมาตัดเป็นวงกลมให้เท่ากับขนาดก้นถัง จำนวน 5 ใบ
5. เมล็ดถั่วเขียว ครึ่งกิโลกรัม นำมาคัดเมล็ดลีบเสียทิ้งไป แล้วแช่เมล็ดถั่วในน้ำอุ่น อัตราส่วน น้ำร้อน:น้ำเย็น 1:1 นาน 4 ชั่วโมง ถ้าแช่ในน้ำธรรมดา นาน 8 ชั่วโมง เมื่อครบชั่วโมงให้นำมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นไปเริ่มวิธีการเพาะถั่วงอกคอนโดกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการเพราะถั่วงอกคอนโด
ก่อนอื่นเราต้องลวกอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคก่อนนะคะ จากนั้นก็เริ่มขั้นตอนการเพาะถั่วงอกคอนโดได้เลยค่ะ
1. วางตะแกรงปิ้งปลาลงที่ก้นถัง แล้ววางทับด้วยผ้ากระสอบ 1 ผืน วางตะแกรงไนล่อน 1 ใบ ทับบนผ้ากระสอบ
2. วางเมล็ดถั่วส่วนลงบนตะแกรงไนล่อน เกลี่ยให้ทั่วตะแกรง เทคนิคคืออย่าวางเมล็ดถั่วซ้อนกัน ถั่วงอกจะได้งอกสมบูรณ์และอวบน่ารับประทาน
3. ทำเช่นเดียวกันจนครบทั้ง 5 ชั้น ปิดทับถั่วเขียวชั้นบนสุดด้วยผ้ากระสอบ 2 ผืน ใช้ฝักบัวรดน้ำให้ชุ่ม แล้วปิดฝาถัง
4. ใช้ฝักบัวรดน้ำทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ละครั้งให้สังเกตน้ำที่ระบายออกมาจากรูก้นถัง หากยังมีอุณหภูมิสูง ให้รดน้ำต่อไปจนกระทั่งน้ำมีอุณหภูมิปกติ ทำเช่นนี้ 2 คืน 3 วัน
5. เมื่อครบ 3 วัน ให้เตรียมกะละมังใส่น้ำ ยกแผงของถั่วงอกออกมาจากถัง แล้วจะเห็นว่าต้นถั่วงอกจะอยู่ด้านบนของตะแกรงไนล่อนค่ะ ส่วนรากถั่วงอกจะทะลุผ่านผ้ากระสอบ ให้ใช้มีดปาดที่โคนต้นถั่วงอกด้านที่ติดกับตะแกรงไนล่อนลงสู่กะละมัง ล้างถั่วงอกที่ตัดรากแล้วให้สะอาด ถั่วงอกก็พร้อมที่จะนำไปบรรจุถุงเพื่อเตรียมจำหน่ายต่อไป เป็นอันเสร็จขึ้นตอนการเพาะถั่วงอกคอนโดแล้วค่ะ

ช่องทางการขาย
ช่องทางทำเงินจากการขายถั่วงอกคอนโดนั้น มีทั้งในตลาดขนาดเล็ก เช่น ตลาดในหมู่บ้าน ในชุมชน หรือถ้าทำเป็นธุรกิจหลัก ก็สามารถติดต่อกับตลาดค้าส่งผักได้อีกด้วย ถั่วงอกคอนโดยังสามารถทำกลยุทธ์ทางการตลาดได้ ด้วยการบรรจุหีบห่อที่สวยงาม แล้วพิมพ์ข้างถุงได้เลยค่ะว่าเป็นถั่วงอกคอนโดปลอดสารเคมี อุปกรณ์ที่เราใช้ในการเพาะถั่วงอกครั้งแรกทั้งหมดก็สามารถใช้ซ้ำและมีอายุยาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการเก็บรักษา จึงถือว่าประหยัดต้นทุนมากค่ะ

สรุป
การเพาะถั่วงอกคอนโดนั้น ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วยค่ะ เพราะไม่ได้ใช้สารเคมีใดๆในการเพาะปลูกเลย สบายใจทั้งผู้ผลิตและผู้รับประทาน การลงทุนก็เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซื้ออุปกรณ์ในช่วงเริ่มแรก จากนั้นก็สามารถใช้อุปกรณ์เดิมในการเพาะถั่วงอกได้ในครั้งต่อๆไป ทำให้ประหยัดต้นทุนได้มากเลยค่ะ หรือจะเพราะถั่วงอกเพื่อกินเองในครอบครัว ก็ยิ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย มีเงินเหลือเก็บเหลือออมไว้ลงทุนด้านอื่นๆ ยังไงเพื่อนๆก็ลองพิจารณาการเพาะถั่วงอกคอนโดเพื่อขายเผื่อไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาชีพเสริมกันดูนะคะ


ผู้เขียน: เหมียววดี

วิธีการหารายได้เสริม แบบพอเพียงและเรียบง่ายสไตล์น้าชาติ

อาชีพรับจ้างทั่วไป
       เมื่อวันก่อนนายอาชีพได้มีโอกาส เดินทางไปท่องเที่ยวสวนผลไม้ของเพื่อนที่ต่างจังหวัด และได้มีโอกาสสัมภาษณ์พ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาซื้อผลไม้ที่สวนแห่งนี้ หัวข้อในบทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการทำอาชีพเสริมและวิธีการหารายได้ของคนแถบนั้น จากการที่ได้พูดคุยกับน้าชาติซึ่งแกมีอาชีพเสริมเป็นพ่อค้ารายย่อย โดยน้าชาติจะมาเล่าถึงวิธีการหารายได้เสริมแบบพอเพียงและเรียบง่ายให้เราฟัง ทุกๆเช้าน้าชาติจะเข้ามาเก็บสินค้าเกษตรไปนั่งขายที่ตลาดช่วงเย็น

อาชีพหลักของครอบครัวน้าชาติจริงๆแล้วคือการทำห่อหมกขาย ซึ่งจะมี ห่อหมกปลา ห่อหมกหน่อไม้ ห่อหมกหัวปลี โดยส่วนใหญ่ภรรยาของน้าชาติจะเป็นผู้ลงมือทำ รายได้จากการทำห่อหมก โดยหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกวันละ 300-350 บาท 

ส่วนหน้าที่ของน้าชาติ แกจะมีหน้าที่ตะเวนหาของมาขายเพิ่มเติม เพื่อให้มีสินค้าหลากหลายและเพิ่มรายได้ให้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้น้าชาติจะเรียนไม่สูง แต่น้าชาติก็รู้จักวางแผนในการหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว โดยวิธีการวางแผนหารายได้เสริมของน้าชาติคือ ในแต่ละปีน้าชาติจะดูปฎิทิน น้าชาติมองเห็นแล้วว่า 1 ปี มี 12 เดือน และในแต่ละช่วงเดือนของปี น้าชาติจะรู้ว่ามีผลผลิตที่หมู่บ้านไหนออกมาบ้าง เช่น ผัก ผลไม้ หน่อไม้ เห็ดนางฟ้า เห็ดฝาง ปลา ไก่ ลูกอ๊อด และอีกหลายอย่าง เมื่อผลผลิตในท้องถิ่นไหนได้เวลาเก็บเกี่ยว น้าชาติก็จะเข้าไปติดต่อและขอเข้ารับซื้อในราคาที่ถูกเพราะน้าชาติลงมือเก็บเอง 

จะเห็นได้ว่าใน 1 ปี น้าชาติสามารถหาของมาขายได้แทบทุกวัน นับเป็นช่องทางทำเงินง่ายๆไม่ยากเลย แต่ก็อย่างที่บอก อาชีพเสริมของน้าชาติเป็นพ่อค้ารายย่อย แกจึงเข้าไปรับซื้อสินค้าได้ไม่มากนัก รายได้เสริมหลังหักต้นทุนในการรับซื้อเฉลี่ยต่อวันจากการเข้าไปซื้อผลผลิตต่างๆ ก็จะตกวันละ 300-400 บาทต่อวัน รวมกับการขายห่อหมกของภรรยา เมื่อรวมกันก็เป็นเงินประมาณ 700-800 บาทต่อวัน ถึงจะเป็นเงินไม่มากสำหรับบางคน แต่น้าชาติกับภรรยาก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพอเพียง 

ทุกวันนี้น้าชาติไม่มีหนี้สิน แถมยังมีเงินออม อนาคตน้าชาติมีเป้าหมายอย่างหนึ่งคือ เก็บเงินซื้อที่ดินสัก 3 ไร่ น้าชาติเล่าว่าเมื่อถึงวันนั้น น้าชาติก็จะดำเนินชีวิตแบบพอเพียง และนำทฤษฏีใหม่ของพ่อหลวงเข้ามาปรับใช้ โดยน้าชาติจะจัดสรรที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยแบ่งที่ดินเป็นที่อยู่อาศัย 1 ส่วน ปลูกผักผลไม้ พืชไร่ 1 ส่วน ขุดสระกักเก็บน้ำไว้เลี้ยงปลา 1 ส่วน และปลูกข้าวไว้กินในครัวเรือนอีก 1 ส่วน น้าชาติบอกว่าแค่คิดก็มีความสุขแล้ว ถ้าฝันของน้าชาติเป็นจริงแกบอกว่าในแต่ละวันแทบไม่ต้องใช้เงินเลย เพราะมีกินมีใช้ในพื้นที่ของตนเอง แถมมีผลผลิตไว้ขายเพื่อสร้างเสริมสร้างรายได้อีก

      เป็นยังไงครับ กับวิธีหารายได้แบบเรียบง่าย จากอาชีพเสริมจนเป็นอาชีพที่ทำเงิน ตราบใดที่ขยันและรู้จักวางแผนและบริหารจัดการรายได้ที่เข้ามา นายอาชีพเชื่อว่าความฝันของน้าชาติคงไม่ไกลเกินจริงอย่างแน่นอนครับ 

ผู้เขียน: นายอาชีพ
Photo by archeep


ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง สุขภาพดีแถมเพิ่มรายได้

อาชีพเสริมรายได้ดี ปลูกผักสวนครัวขาย
เคยไหม? เวลาไปซื้อผักที่ตลาดแล้วรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ผักแพงจัง  ยิ่งมะนาวลูกนึง แพงกว่าไข่ไก่ซะอีก
แต่ก็ต้องจำใจซื้อเพราะต้องใช้ประกอบอาหาร  ช่องทางทำเงินวันนี้ นายอาชีพ จะมาชวนเพื่อนๆปลูกผักสวนครัวไว้กิน เหลือไว้ขาย เพื่อเพิ่มรายได้ จะปลูกไว้เป็นงานอดิเรก หรือจะปลูกเป็นอาชีพเสริมก็ไม่ว่ากัน

พื้นที่ในการปลูกผัก
ไม่จำเป็นต้องมีสวนมีไร่ แค่บริเวณบ้าน ชานบ้าน รั้วบ้าน หรือแม้แต่คนที่อยู่คอนโด อาพารท์เม้นต์ก็สามารถปลูกได้


ไอเดียในการออกแบบพื้นที่ในการปลูกผัก
อันนี้ผมมองว่าสำคัญไม่ใช่น้อย ก่อนอื่นเราต้องคำนวนพื้นที่ใช้สอยก่อน แล้วเริ่มออกแบบและจัดวางวัสดุอัปกรณ์ให้เป็นสัดส่วน เพื่อให้เกิดความสวยงามและสบายตา ใครมาเห็นก็ต้องต่างพากันชื่นชมและอยากทำตาม


ผักที่แนะนำในการปลูก

แนะนำให้ปลูกผักที่เราใช้กินในชีวิตประจำวันและที่เราชอบกิน เช่น กะเพรา โหระพา ผักบุ้ง พริก สะระแหน่ ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี ถั่วงอก มะกรูด มะนาว มันก็แล้วแต่เราว่าอยากจะปลูก
บางคนอาจจะเน้นปลูกง่าย โตเร็ว ดูแลรักษาง่าย ก็ไม่ว่ากัน ยกตัวตัวอย่าง การเพาะถั่วงอก เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ หรือถ้ายากหน่อย ก็ปลูผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นอาชีพเสริมส่งขายที่ห้างเลยก็ไม่ว่ากัน



ทำไมถึงแนะนำให้ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง คำตอบเรียบเรียงไว้เป็นข้อๆตามข้างล่างนี้ครับ
  • ผักที่เราปลูก มั่นใจได้ว่าสะอาดปลอดภัยจากสารปนเปื้อนต่างๆ คนในครอบครัวรับประทานเข้าไป ก็สบายใจได้
  • ก่อเกิดความสุข และความภูมิใจ (ลองดู แล้วจะรู้)
  • เป็นการฝึกสมาธิ ทำให้เราได้ฝึกจิตใจ รู้จักที่จะใจเย็น รู้จักที่จะเอาใจใส่ และรู้จักที่จะรอคอย
  • นอกจากจะได้รับประโยชน์จากสารอาหารและความปลอดภัยแล้ว เรายังได้มิตรภาพจากบ้านใกล้เรือนเคียงอีกด้วย ถ้าเรารู้จักที่จะแบ่งปัน
  • เราสามารถทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้เราได้อีกด้วย เพราะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักที่ตลาด รู้หรือไม่ในแต่ละเดือนเราซื้อผักที่ตลาดเดือนหนึ่งหลายร้อยบาทเลยนะ ยิ่งครอบครัวไหนมีคนเยอะ ก็ยิ่งต้องซื้อเยอะ ดังนั้น ผักที่เราปลูก ถ้าปลูกในปริมาณมากหน่อย เราก็วางขายหน้าบ้านเลยซะเลย หรือถ้าไม่อยากวางขายหน้าบ้าน ก็ติดป้ายว่าที่นี่มีผักปลอดสารพิษจำหน่ายราคาถูก รับรองว่ามีคนมาอุดหนุนแน่ๆ 
ประโชยน์จากการปลูกผักสวนครัว มีอีกมากมาย ได้สุขภาพ ได้มิตรภาพ แถมมีรายได้เพิ่มมาอีก ถ้าเพื่อนๆมีพื้นที่ ก็แนะนำให้ทำเป็นอาชีพเสริมได้เลย รับรองว่าการปลูกผักสวนครัวเป็นอาชีพที่ทำเงินได้อย่างแน่นอน บางคนมีรายได้หลายหมื่นบาทจากการปลูกผักส่งตามห้างสรรพสินค้าก็มี เช่น ผักไฮโดรโปนิกส์ แต่ต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพซักหน่อย สุดท้าย นายอาชีพ ขอให้ทุกคนสุขภาพดี ร่ำรวยเงินทองกันทุกคนครับ

ผู้เขียน: นายอาชีพ
                       

Popular